ถ้าหากนักศึกษาคนใดๆอยากได้รับใบประกาศเณียบัตรจากสหรัฐฯ เขาต้องส่งคำตอบมาถึงเราและถ้าผ่านเราก็จะส่งใบประกาศเณียบัตรไปให้เขา ขอส่งคำตอบมายังที่: biblestudythailand@gmail.com หรือ Facebook: www.facebook.com/ThaiBibleStudy หรือ Line ID: 0871937157

ในบทเรียนที่ 1 – 24 เราได้เรียนรู้ว่าปัญหาบาปของมนุษย์เกิดขึ้นได้อย่างไร ในบทเรียนที่ 25 – 26 เราได้เรียนรู้ว่าพระเจ้าทรงแก้ปัญหาบาปของมนุษย์แล้วอย่างไร

ในบทเรียนต่อๆไปที่เหลือ เราจะเรียนรู้ว่าคุณจะประยุกต์ใช้สิ่งที่เรียนมากับชีวิตส่วนตัวของคุณอย่างไร และคุณจะได้รับการอภัยโทษบาปของคุณและเข้าสู่ความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้าได้อย่างไร

คนบาปคือคนที่กระทำบาป แต่คำว่า “บาป” หมายถึงอะไร? เราต้องเข้าใจความหมายของคำว่าบาปนี้ ก่อนที่เราจะตอบคำถามที่ว่า “คุณเป็นคนบาปหรือไม่?” ได้

พระเจ้าทรงนิยามความหมายของคำว่าบาปไว้อย่างไร?

1 ยอห์น 3:4 – “ผู้ใดที่กระทำบาปก็ละเมิดพระราชบัญญัติด้วย เพราะความบาปเป็นสิ่งที่ละเมิดพระราชบัญญัติ”

พระเจ้าทรงนิยามคำว่าบาปว่าเป็นการละเมิดกฎของพระเจ้า คุณทำบาปเมื่อคุณไม่เชื่อฟังพระเจ้าและฝ่าฝืนกฎของพระองค์

ตัวอย่างที่ 1 ในอพยพ 20:4-5 พระเจ้าตรัสว่า “เจ้าจงอย่าทำรูปเคารพแกะสลักใด ๆ สำหรับตน… เจ้าจงอย่ากราบไหว้รูปเหล่านั้น”

คุณเคยก้มกราบรูปเคารพหรือกราบไหว้ศาลพระภูมิบ้างหรือไม่? ทุกครั้งที่คุณทำเช่นนั้น คุณก็ไม่เชื่อฟังพระเจ้า คุณฝ่าฝืนกฎของพระเจ้าแล้ว คุณได้ทำบาปแล้ว

ตัวอย่างที่ 2 ในอพยพ 20:12 พระเจ้าตรัสว่า “จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของเจ้า”

คุณให้เกียรติพ่อแม่ของคุณเมื่อคุณเชื่อฟังพวกท่าน คุณไม่ให้เกียรติพ่อแม่เมื่อคุณไม่เชื่อฟังพวกท่าน หรือเมื่อคุณพูดจาหยาบคายใส่พวกท่าน คุณเชื่อฟังพ่อแม่ตลอดในทุกเรื่องที่พวกท่านบอกคุณหรือไม่?

บางทีพวกท่านบอกให้คุณทำความสะอาดห้องของคุณ เอาขยะไปทิ้ง หรือล้างจาน และคุณก็ไม่ได้ทำมัน นั่นคือการไม่เชื่อฟัง นั่นคือการไม่ให้เกียรติพ่อแม่ของคุณ

ถ้าเราซื่อสัตย์กับตัวเอง เราทุกคนล้วนไม่ได้เชื่อฟังพ่อแม่ของเราในบางครั้ง ทุกครั้งที่คุณทำเช่นนั้น คุณก็ไม่เชื่อฟังพระเจ้า คุณได้ฝ่าฝืนกฎของพระเจ้า คุณได้ทำบาปแล้ว

ตัวอย่างที่ 3 ในอพยพ 20:13 พระเจ้าตรัสว่า “เจ้าจงอย่าฆ่าคน”

คุณอาจไม่เคยฆ่าคน แต่พระเยซูตรัสว่าถ้าคุณเคยโกรธคนอื่น คุณได้ฆ่าพวกเขาแล้วในใจของคุณ (มัทธิว 5:22)

ทุกครั้งที่คุณโกรธคนอื่น คุณก็ไม่เชื่อฟังพระเจ้าแล้ว คุณได้ฝ่าฝืนกฎของพระเจ้า คุณได้ทำบาปแล้ว

ตัวอย่าง 4 ในอพยพ 20:14 พระเจ้าตรัสว่า “เจ้าจงอย่าล่วงประเวณี”

พระเยซูตรัสว่าถ้าคุณเคยมองคนอื่นด้วยใจกำหนัดในความต้องการทางเพศ คุณก็ได้ล่วงประเวณีในใจแล้ว (มัทธิว 5:28)

ทุกครั้งที่คุณเคยมองคนอื่นด้วยใจกำหนัด คุณก็ไม่เชื่อฟังพระเจ้า คุณได้ฝ่าฝืนกฎของพระเจ้า คุณได้ทำบาปแล้ว

ตัวอย่าง 5 ในอพยพ 20:16 พระเจ้าตรัสว่า “เจ้าจงอย่าเป็นพยานเท็จ”

คุณเคยพูดโกหกไหม? แน่นอนว่าคุณเคย ทุกคนเคยพูดโกหกกันทั้งนั้น วัฒนธรรมของคุณอาจจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่พระเจ้าตรัสว่าอย่าโกหก

ทุกครั้งที่คุณโกหก คุณก็ไม่เชื่อฟังพระเจ้า คุณได้ฝ่าฝืนกฎของพระเจ้า คุณได้ทำบาปแล้ว

หากพระเจ้าจะทรงพิพากษาคุณโดยอิงตามบทบัญญัติแค่ไม่กี่ข้อนี้ คุณจะมีความผิดหรือไม่มีความผิด?

คนมากมายรู้สึกไม่พอใจ เมื่อคุณบอกเขาว่าเขาเป็นคนบาป คนส่วนใหญ่คิดว่าตัวเองเป็นคนดี พวกเขาคิดว่าคนบาปคือคนที่เป็นคนเลวจริงๆ เช่น ฆาตกรหรือขโมย

แต่พระวจนะของพระเจ้ากล่าวว่า คนบาปคือผู้ที่ได้ละเมิดบทบัญญัติของพระเจ้า

ยากอบ 2:10 – “เพราะว่าผู้ใดรักษาพระราชบัญญัติได้ทั้งหมด แต่ผิดอยู่ข้อเดียว ผู้นั้นก็เป็นผู้ผิดพระราชบัญญัติทั้งหมด”

นั่นหมายความว่าหากคุณเคยทำบาปแม้เพียงครั้งเดียว คุณก็มีความผิดโทษฐานละเมิดกฎของพระเจ้า

หากคิดถึงภาพของห่วงโซ่ อาจจะช่วยให้คุณเข้าใจได้มากขึ้น ในห่วงโซ่นั้นมีหลายข้อต่อ เราจะต้องทำลายข้อต่อกี่อันเพื่อทำให้โซ่นั้นขาด? คำตอบคือทำลายเพียงแค่ข้อต่อเดียวก็ทำให้โซ่นั้นขาดได้แล้ว บทบัญญัติของพระเจ้าก็เป็นเช่นนั้น

นั่นหมายความว่า ถ้าคุณเคยกราบรูปเคารพ ไหว้ศาลพระภูมิ ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ โกรธผู้อื่น มองคนอื่นด้วยใจกำหนัด หรือโกหกแม้เพียงครั้งเดียว คุณก็มีความผิดโทษฐานละเมิดกฎของพระเจ้า

คุณเป็นคนบาปหรือไม่? พระเจ้าตรัสว่าอะไร?

โรม 3:23 – “เหตุว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากสง่าราศีของพระเจ้า”

ตามพระคำข้อนี้ใครได้ทำบาปแล้ว? ทุกคนได้ทำบาปแล้ว ทุกคนรวมถึงผมด้วย และทุกคนรวมถึงคุณด้วย ไม่มีผู้ใดเป็นคนชอบธรรมในสายพระเนตรของพระเจ้า

ตามพระคำข้อนี้ เราทุกคนเสื่อมจากสง่าราศีของใคร? คำตอบคือเราเสื่อมจากสง่าราศีของพระเจ้า

สมมติว่าคุณมีอายุจนถึง 70 ปี เจ็ดสิบปีเท่ากับ 25,550 วัน การที่จะคุณไปสวรรค์ได้บนพื้นฐานแห่งความชอบธรรม หมายความว่าคุณต้องไม่เคยทำบาปแม้แต่ครั้งเดียวเป็นเวลากว่า 25,000 วัน

นั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้! ทุกคนเสื่อมจากความสมบูรณ์แบบของพระเจ้าแล้ว

แต่พระเจ้าทรงมีหนทางแก้ปัญหาบาปของมนุษย์แล้ว มันเริ่มต้นด้วยการยอมรับต่อพระเจ้าว่าคุณเป็นคนบาป จงสารภาพต่อพระเจ้าว่าคุณมีปัญหาบาป

จากนั้นจงขอให้พระเจ้าทรงแก้ปัญหานั้นและนำคุณเข้ามามีความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระองค์

กรุณาส่งข้อความถึงผม หากคุณอยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเข้าสู่ความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้า

**********

โปรดพิมพ์คำตอบและส่งให้เราทางอีเมล, Facebook Messenger, LINE หรือ WhatsApp ถ้าผ่านเราจะส่งบทเรียนต่อไปให้คุณ ถ้าหากคุณมีคำถามใด ๆ โปรดติดต่อเรา

คำถามบทเรียนที่ 27

1. ตามที่พระคัมภีร์ว่าไว้ คนบาปคือ คนที่กระทำบาป

ก. จริง
ข. เท็จ

2. ตามที่ 1 ยอห์น 3:4 ว่าไว้ ความบาปถูกนิยามว่าเป็น การละเมิดกฎของพระเจ้า

ก. จริง
ข. เท็จ

3. ตามที่ 1 ยอห์น 3:4 ว่าไว้ คุณทำบาปเมื่อคุณไม่เชื่อฟังพระเจ้าและฝ่าฝืนกฎของพระองค์

ก. จริง
ข. เท็จ

4. ตามที่ อพยพ 20:4-5 ว่าไว้ คุณทำบาปเมื่อคุณก้มกราบรูปเคารพหรือไหว้ศาลพระภูมิ

ก. จริง
ข. เท็จ

5. ตามที่ อพยพ 20:12 ว่าไว้ คุณทำบาปเมื่อคุณไม่เชื่อฟังพ่อแม่ของคุณ

ก. จริง
ข. เท็จ

6. ตามที่ อพยพ 20:13 ว่าไว้ คุณทำบาปเมื่อคุณโกรธคนอื่น

ก. จริง
ข. เท็จ

7. ตามที่ อพยพ 20:14 ว่าไว้ คุณทำบาปเมื่อคุณมองคนอื่นด้วยใจกำหนัด

ก. จริง
ข. เท็จ

8. ตามที่ อพยพ 20:16 ว่าไว้ คุณทำบาปเมื่อคุณพูดโกหก

ก. จริง
ข. เท็จ

9. ตามที่ ยากอบ 2:10 ว่าไว้ ถ้าคุณทำบาปแม้เพียงครั้งเดียว ก็เท่ากับคุณได้ฝ่าฝืนกฎของพระเจ้าหมดทุกข้อแล้ว

ก. จริง
ข. เท็จ

10. ตามที่ โรม 3:23 ว่าไว้ มีบางคนที่ไม่เป็นคนบาป

ก. จริง
ข. เท็จ