ถ้าหากนักศึกษาคนใดๆอยากได้รับใบประกาศเณียบัตรจากสหรัฐฯ เขาต้องส่งคำตอบมาถึงเราและถ้าผ่านเราก็จะส่งใบประกาศเณียบัตรไปให้เขา ขอส่งคำตอบมายังที่: biblestudythailand@gmail.com หรือ Facebook: www.facebook.com/ThaiBibleStudy หรือ Line ID: 0871937157

หลังจากที่อาดัมและเอวาได้ทำบาป พวกเขาก็ตระหนักว่าพวกเขากำลังเปลือยเปล่า พวกเขาจึงตัดใบมะเดื่อมาเย็บเพื่อปกปิดความเปลือยเปล่าของพวกเขา จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินพระเจ้าเสด็จมาหาพวกเขาและพวกเขาซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางต้นไม้

พระเจ้าทรงเรียกหาอาดัมและในที่สุดเขาก็ออกมาพบกับพระเจ้า เขาตอบพระเจ้าว่า

ปฐมกาล 3:10 – “และเขาทูลว่า ‘ข้าพระองค์ได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ในสวน และข้าพระองค์ก็กลัว เพราะว่าข้าพระองค์เปลือยกายอยู่ และข้าพระองค์ได้ซ่อนตัวเสีย’ ”

อาดัมกลัวและอับอายเพราะเขารู้ว่าเขาได้ทำบาปต่อพระเจ้าแล้ว จากนั้นพระเจ้าถามอาดัมว่าเขาได้กินผลไม้ที่พระเจ้าทรงห้ามไว้แล้วหรือไม่

ปฐมกาล 3:11 – “และพระองค์ตรัสว่า ‘ใครได้บอกเจ้าว่าเจ้าเปลือยกายอยู่ เจ้าได้กินผลจากต้นไม้นั้น ซึ่งเราสั่งเจ้าไว้ว่าเจ้าอย่ากินแล้วหรือ’ ”

สังเกตคำตอบของอาดัมในข้อต่อไปนี้

ปฐมกาล 3:12 – “และชายนั้นทูลว่า ‘หญิงซึ่งพระองค์ทรงประทานให้อยู่กับข้าพระองค์นั้น นางได้ส่งผลจากต้นไม้นั้น และข้าพระองค์จึงได้รับประทาน’ ”

อาดัมตอบคำถามพระเจ้าว่าเขาได้กินผลไม้นั้นจริงๆ แต่อาดัมก็ไม่ได้ยอมรับผิดเรื่องความบาปของตน เขาโทษเอวาที่ส่งผลไม้นั้นให้แก่เขา

อาดัมจะบอกภรรยาของเขาก็ได้ว่า “ไม่ ฉันจะไม่กินมัน” แต่เขาก็รับผลไม้นั้นไปกินทั้งๆที่รู้ว่าเขากำลังไม่เชื่อฟังพระเจ้า

ไม่มีใครบังคับอาดัมให้ไม่เชื่อฟังพระเจ้า เขาเต็มใจไม่เชื่อฟังพระเจ้าเอง อาดัมไม่ยอมรับผิดชอบต่อการกระทำของเขา เขากำลังโทษเอวา

เมื่อเราทำอะไรผิดพลาดไป มันง่ายที่จะโทษคนอื่นที่มีอิทธิพลต่อเราให้เราทำสิ่งนั้น แต่ความจริงก็คือเมื่อเราทำบาป เป็นเพราะตัวเราเองที่เลือกทำบาป

มันเป็นความผิดของผมเมื่อผมทำบาป ไม่ใช่ความผิดของคนอื่น เราต้องรับผิดชอบต่อการเลือกที่เราได้ทำไป อาดัมทำไม่ถูกที่โทษภรรยาของเขา

อาดัมไม่เพียงโทษภรรยาของตนเท่านั้น แต่เขายังโทษพระเจ้าด้วย อาดัมบอกพระเจ้าว่า “หญิงซึ่งพระองค์ทรงประทานให้อยู่กับข้าพระองค์นั้น” เขาโทษพระเจ้าที่ประทานหญิงนั้นให้แก่เขา

ผมหวังว่าคุณจะไม่ทำพลาดในการโทษพระเจ้าเรื่องความบาปของคุณเอง คนมากมายได้โทษพระเจ้าที่ทรงอนุญาตให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้นในชีวิตของพวกเขาซึ่งชักจูงพวกเขาให้ทำบาป

จากนั้นพระเจ้าทรงหันไปหาเอวาและตรัสถามว่า

ปฐมกาล 3:13 – “และพระเยโฮวาห์พระเจ้าตรัสแก่หญิงนั้นว่า ‘เจ้าทำอะไรลงไป’ และหญิงนั้นทูลว่า ‘งูล่อลวงข้าพระองค์ และข้าพระองค์จึงได้รับประทาน’ ”

เอวาก็สารภาพต่อพระเจ้าว่าเธอกินผลไม้นั้นเข้าไป แต่เธอก็โทษงูนั้น เธอกล่าวว่า “งูล่อลวงข้าพระองค์”

เช่นเดียวกับอาดัม เอวาไม่รับผิดชอบต่อการกระทำของเธอ แต่โทษว่าเป็นเพราะคนอื่น

พระเจ้าไม่อยากให้อาดัมและเอวาโทษว่าบาปของตนเป็นเพราะสถานการณ์รอบด้านที่เขาเผชิญอยู่หรือเป็นเพราะคนอื่น ในทำนองเดียวกันพระเจ้าก็ไม่อยากให้คุณโทษว่าบาปของคุณเป็นเพราะสถานการณ์รอบด้านหรือคนอื่นๆด้วย

ความบาปเกิดจากการเลือกของเราเอง และไม่ใช่จากสถานการณ์รอบด้านหรือคนรอบข้าง

เหมือนกับที่พระเจ้าอยากให้อาดัมยอมรับผิดต่อความบาปของเขา พระเจ้าก็ทรงอยากให้เรายอมรับผิดต่อบาปของเราเช่นกัน

ข้อนี้อาจจะยากเกินที่จะทำในชีวิตคือ เราต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของเราเอง เมื่อเรายอมรับความผิดบาปของเราแล้ว เราก็พร้อมที่จะรับฟังแผนการของพระเจ้าเพื่อแก้ปัญหาเรื่องความบาปของเรา

คุณจะโทษใครเรื่องความบาปของคุณ? หากคุณจะโทษว่าความบาปของคุณเป็นเพราะคนอื่นหรือเพราะสถานการณ์พาไป มันก็จะไม่มีทางแก้ปัญหาความบาปของคุณเลย

พระเจ้าทรงมีหนทางหนึ่งเพื่อแก้ปัญหาเรื่องความบาปของคุณและนำคุณเข้ามาสู่ความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระองค์

แต่คุณจะต้องยอมรับผิดเรื่องความบาปของคุณและเลิกโทษคนอื่นหรือโทษสถานการณ์ต่างๆ

กรุณาส่งข้อความถึงผม หากคุณพร้อมที่จะรับผิดเรื่องความบาปของคุณและอยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเข้าสู่ความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้า

**********

โปรดพิมพ์คำตอบและส่งให้เราทางอีเมล, Facebook Messenger, LINE หรือ WhatsApp ถ้าผ่านเราจะส่งบทเรียนต่อไปให้คุณ ถ้าหากคุณมีคำถามใด ๆ โปรดติดต่อเรา

คำถามบทเรียนที่ 17

1. ตามที่ปฐมกาล 3:12 ว่าไว้ อาดัมสารภาพต่อพระเจ้าว่าเขาได้กินผลไม้นั้นไป

ก. จริง
ข. เท็จ

2. ตามที่ปฐมกาล 3:12 ว่าไว้ อาดัมยอมรับผิดสำหรับความบาปของตน

ก. จริง
ข. เท็จ

3. ตามที่ปฐมกาล 3:12 ว่าไว้ อาดัมโทษสองบุคคลใดสำหรับความบาปของตน?

ก. __________
ข. __________

4. ตามที่ปฐมกาล 3:13 ว่าไว้ เอวารับสารภาพต่อพระเจ้าว่าเธอได้กินผลไม้นั้น

ก. จริง
ข. เท็จ

5. ตามที่ปฐมกาล 3:13 ว่าไว้ เอวายอมรับผิดสำหรับความบาปของตน

ก. จริง
ข. เท็จ

6. ตามที่ปฐมกาล 3:13 ว่าไว้ เอวาโทษใครสำหรับความบาปของตน? ____________

7. ตามที่พระคัมภีร์ว่าไว้ อาดัมและเอวาเลือกที่จะไม่เชื่อฟังพระเจ้าหรือพญามารบังคับพวกเขาให้ไม่เชื่อฟังพระเจ้า

ก. อาดัมและเอวาเลือกที่จะไม่เชื่อฟัง
ข. พญามารบังคับพวกเขาให้ไม่เชื่อฟัง

8. ตามที่พระคัมภีร์ว่าไว้ เมื่อคุณทำบาป พระเจ้าก็อยากให้คุณ …

ก. โทษพระเจ้าสำหรับความบาปของคุณ
ข. โทษคนอื่นสำหรับความบาปของคุณ
ค. ยอมรับว่าคุณมีความผิดในเรื่องความบาปของคุณและการตัดสินใจต่างๆของคุณเอง

9. ตามที่พระคัมภีร์ว่าไว้ มันเป็นความผิดของพระเจ้าใช่ไหมที่คุณเลือกทำบาป?

ก. จริง
ข. เท็จ