ถ้าหากนักศึกษาคนใดๆอยากได้รับใบประกาศเณียบัตรจากสหรัฐฯ เขาต้องส่งคำตอบมาถึงเราและถ้าผ่านเราก็จะส่งใบประกาศเณียบัตรไปให้เขา ขอส่งคำตอบมายังที่: biblestudythailand@gmail.com หรือ Facebook: www.facebook.com/ThaiBibleStudy หรือ Line ID: 0871937157

พญามารใช้งูนั้นเพื่อพูดคุยกับเอวาในปฐมกาล 3:1 เธอไม่รู้ว่าตนกำลังพูดคุยกับพญามาร มันบิดเบือนพระคัมภีร์และทำให้เธอสงสัยสิ่งที่พระเจ้าได้ตรัสจริงๆ

จากนั้นเราอ่านคำตอบของเอวาในข้อ 2-3 มีคำพูดเล็กน้อยไม่กี่คำของเอวาที่ทำให้เกิดปัญหาใหญ่

ปฐมกาล 3:2-3 – “และหญิงนั้นจึงกล่าวแก่งูว่า ‘ผลของต้นไม้ชนิดต่าง ๆ ในสวนนี้พวกเรากินได้ แต่ผลของต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งอยู่ท่ามกลางสวน พระเจ้าตรัสว่า พวกเจ้าจงอย่ากินมัน หรือแตะต้องมัน เกรงว่าพวกเจ้าจะตาย’ ”

ในพระคำข้อ 2 เธอกล่าวว่า “ผลของต้นไม้ชนิดต่าง ๆ ในสวนนี้พวกเรากินได้” แต่เธอตัดออกไปสองคำ พระเจ้าทรงบอกอาดัมในปฐมกาล 2:16 ว่า “จากบรรดาต้นไม้ทุกต้นในสวนเจ้ากินได้ทั้งหมดอย่างอิสระ”

เธอตัดทิ้งคำว่า “ทุกต้น” พระเจ้าตรัสว่าพวกเขาได้รับอนุญาตให้กินผลจากบรรดาต้นไม้ทุกต้นยกเว้นต้นเดียว นั่นคือ ต้นไม้แห่งความรู้ดีและชั่ว

เธอตัดคำว่า “อย่างอิสระ” ออกไปด้วย พระเจ้าประทานบรรดาต้นไม้มีผลให้อาดัมและเอวาเพื่อที่พวกเขาจะรับประทานได้ พวกเขามีอิสระที่จะกินเมื่อใดก็ได้ที่พวกเขาอยากและมากเท่าไรก็ได้ที่พวกเขาอยาก

แต่เอวาไม่ได้ระแวดระวังในอิสรภาพที่พระเจ้าประทานให้พวกเขา ว่าต้นไม้ทุกต้นนั้นพวกเขากินได้ทั้งหมดอย่างอิสระยกเว้นต้นเดียว บทเรียนนี้ก็คือ เราต้องเป็นคนที่มีใจขอบพระคุณ

เราต้องเรียนรู้ที่จะขอบคุณพระเจ้าสำหรับการอวยพรต่างๆที่พระองค์ประทานให้แก่เรา หากคุณใช้สายตาจับจ้องสิ่งที่ผิดและสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิตของคุณ คุณจะกลายเป็นคนที่ขอบคุณไม่เป็น

คนที่ขอบคุณไม่เป็น คือ คนที่ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนถึงทุกสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงกระทำเพื่อพวกเขา นี่คือจุดที่พญามารเริ่มล่อลวงเอวา

มันหลอกเธอให้คิดว่าพระเจ้ากำลังหวงบางสิ่งที่ดีไว้จากเธอ และมันทำให้เกิดปัญหาใหญ่ในชีวิตของเธอนับแต่นั้นเป็นต้นไป มันจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ในชีวิตของคุณเช่นกัน

ผมขอแนะนำให้คุณสละเวลาและจดบรรดาพระพรที่พระเจ้าได้ประทานให้แก่คุณ จากนั้นจงขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งต่างๆที่คุณมีแทนที่จะพร่ำบ่นถึงสิ่งที่คุณไม่มี

เอวาไม่เพียงตัดทอนถ้อยคำบางตอนของพระเจ้าเท่านั้น แต่เธอยังเพิ่มเติมเข้ากับถ้อยคำของพระเจ้าด้วย ในข้อ 3 เอวากำลังพูดถึงต้นไม้นั้นที่พระเจ้าทรงเตือนอาดัมให้ระวัง

เธอกล่าวว่า “พระเจ้าตรัสว่า พวกเจ้าจงอย่ากินมัน หรือแตะต้องมัน เกรงว่าพวกเจ้าจะตาย” สังเกตคำว่า “หรือแตะต้องมัน” พระเจ้าตรัสเช่นนั้นแก่อาดัมหรือ? คำตอบคือไม่

ในปฐมกาล 2:17 พระเจ้าตรัสแก่อาดัมว่า “เจ้าอย่ากินผลจากต้นนั้น” พระเจ้าตรัสว่าอย่ากินมัน แต่เอวาเพิ่มเติมคำว่า “หรือแตะต้องมัน” เข้าไป

นี่เป็นปัญหาใหญ่ เธอเพิ่มเติมเข้ากับสิ่งที่พระเจ้าได้ตรัสแล้ว พระเจ้ามิได้ตรัสว่า “อย่าแตะต้องต้นไม้นั้น” พระองค์ตรัสเพียงว่าอย่ากินผลจากต้นไม้นั้น

เอวาอาจรู้สึกว่าสิ่งที่พระเจ้าตรัสนั้นไม่แข็งแรงพอ และคิดว่าเธอสามารถเพิ่มเติมเข้ากับสิ่งที่พระเจ้าตรัสแล้วได้เพื่อทำให้มันมีน้ำหนักมากขึ้น นี่เป็นปัญหาใหญ่

มันเคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้วก่อนหน้านี้ ผู้คนเห็นว่าพระเจ้าตรัสอะไร พวกเขาไม่มีความสุขกับข้อความของพระเจ้า จากนั้นพวกเขาคิดว่าตนต้องเพิ่มเติมถ้อยคำลงไปเพื่อที่จะบอกคนอื่นๆว่านี่คือสิ่งที่พระเจ้าตรัสจริงๆ

เอวาไม่เพียงตัดทอนถ้อยคำของพระเจ้าและเพิ่มเข้ากับถ้อยคำของพระเจ้าเท่านั้น แต่เธอยังเปลี่ยนแปลงถ้อยคำของพระเจ้าด้วย

ในข้อ 3 เธอบอกพญามารว่า “เกรงว่าพวกเจ้าจะตาย” คำว่า เกรงว่า หมายถึง บางที ดังนั้น เธอกำลังกล่าวว่าถ้าคุณกินมัน บางทีคุณอาจจะตาย แต่อาจไม่ตายก็ได้

พระเจ้าตรัสเช่นนั้นจริงหรือ? ปฐมกาล 2:17 พระองค์ทรงบอกอาดัมว่า “เจ้าจะตายแน่ในวันนั้น” แน่ หมายถึง มันจะเกิดขึ้นแน่นอน เอวาเปลี่ยนแปลงพระวจนะของพระเจ้าจาก “เจ้าจะตายแน่” เป็น “เจ้าอาจจะตาย”

เอวาลดทอนคำตัดสินต่างๆของพระเจ้าให้เป็นอะไรที่เล็กน้อยกว่าที่พวกมันเป็นจริงๆ เธอทำให้ฟังดูเหมือนว่าอาจไม่มีผลที่ตามมาเลยสำหรับการไม่เชื่อฟังพระเจ้า

เมื่อเราลดทอนคำตัดสินต่างๆของพระเจ้าในชีวิตของเรา เราก็เริ่มคิดว่า บางทีพระเจ้าอาจจะไม่ลงโทษความบาปนี้ และเราก็จะรอดตัวไปได้

เราเห็นว่าเอวาทำอะไรตอนที่เธออ้างคำตรัสของพระเจ้า เธอตัดทอนจากถ้อยคำของพระเจ้า เธอเพิ่มเติมเข้ากับถ้อยคำของพระเจ้า และเธอเปลี่ยนแปลงถ้อยคำของพระเจ้า

นี่เป็นเหตุว่าทำไมคุณถึงต้องทราบว่าพระเจ้าตรัสอะไร คุณไม่ควรเชื่อสิ่งที่มนุษย์พูดเกี่ยวกับพระวจนะของพระเจ้า

ผมไม่อยากให้คุณเชื่อสิ่งที่ผมกล่าว ผมอยากให้คุณเห็นว่าพระเจ้าตรัสอะไรและเชื่อพระองค์

กรุณาส่งข้อความถึงผม หากคุณอยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเข้าสู่ความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้า

**********

โปรดพิมพ์คำตอบและส่งให้เราทางอีเมล, Facebook Messenger, LINE หรือ WhatsApp ถ้าผ่านเราจะส่งบทเรียนต่อไปให้คุณ ถ้าหากคุณมีคำถามใด ๆ โปรดติดต่อเรา

คำถามบทเรียนที่ 11

1. ตามที่พระคัมภีร์ว่าไว้ เอวารู้ว่าตนกำลังพูดกับพญามาร

ก. จริง
ข. เท็จ

2. ตามที่ปฐมกาล 3:2 ว่าไว้ เอวาตัดสองคำใดออกไป?

ก. ___________
ข. ___________

3. ตามที่พระคัมภีร์ว่าไว้ อาดัมและเอวารับประทานผลจากต้นไม้ทุกต้นได้ยกเว้นต้นเดียวเมื่อใดก็ได้และมากเท่าไรก็ได้ที่พวกเขาอยากรับประทาน

ก. จริง
ข. เท็จ

4. ตามที่พระคัมภีร์ว่าไว้ เอวามีใจขอบพระคุณสำหรับอิสรภาพที่จะรับประทานจากต้นไม้ได้ทุกต้นยกเว้นต้นเดียว

ก. จริง
ข. เท็จ

5. ตามที่พระคัมภีร์ว่าไว้ ถ้าคุณพุ่งเป้าไปที่สิ่งที่ขาดหายไปในชีวิตของคุณ คุณก็จะกลายเป็นคนที่ขอบคุณไม่เป็น

ก. จริง
ข. เท็จ

6. ตามที่ปฐมกาล 3:2-3 ว่าไว้ พญามารหลอกเอวาให้คิดว่าพระเจ้ากำลังหวงบางสิ่งที่ดีไว้จากเธอ

ก. จริง
ข. เท็จ

7. ตามที่ปฐมกาล 3:3 ว่าไว้ เอวาเพิ่มคำพูดอะไรเข้ากับพระวจนะของพระเจ้า? _______________

8. ตามที่ปฐมกาล 3:3 ว่าไว้ เอวาเปลี่ยนแปลงพระวจนะของพระเจ้าจาก เจ้าจะตายเป็นแน่ เป็นคำว่าอะไร? ___________

9. ตามที่บทเรียนนี้ว่าไว้ มันสำคัญที่คุณจะเชื่อพระวจนะของพระเจ้าด้วยตัวคุณเอง และไม่เชื่อสิ่งที่คนอื่นพูด เพราะว่ามนุษย์สามารถตัดถ้อยคำออกไปจากพระวจนะของพระเจ้า เพิ่มเข้ากับพระวจนะของพระเจ้า หรือเปลี่ยนแปลงพระวจนะของพระเจ้าได้

ก. จริง
ข. เท็จ