ถ้าหากนักศึกษาคนใดๆอยากได้รับใบประกาศเณียบัตรจากสหรัฐฯ เขาต้องส่งคำตอบมาถึงเราและถ้าผ่านเราก็จะส่งใบประกาศเณียบัตรไปให้เขา ขอส่งคำตอบมายังที่: biblestudythailand@gmail.com หรือ Facebook: www.facebook.com/ThaiBibleStudy หรือ Line ID: 0871937157

ชื่อคอร์ส: รากฐานอย่างมั่นคง

บทที่ 10 – สองสัญญาณเตือนที่เอวาละเลย
ปฐมกาล 3:1



ในบทนี้เราจะเห็นสองสัญญาณเตือนที่เอวาได้เพิกเฉยไม่สนใจ และเพราะเอวาเพิกเฉยสัญญาณเตือนทั้งสองนี้ ความบาปและความระทมทุกข์จึงเข้ามาในชีวิตของเธอ

ปฐมกาล 3:1 – “ในเวลานี้งูนั้นฉลาดหลักแหลมกว่าบรรดาสัตว์ป่าแห่งท้องทุ่งซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าได้ทรงสร้างไว้ และมันกล่าวแก่หญิงนั้นว่า ‘จริงหรือที่พระเจ้าตรัสว่า พวกเจ้าจงอย่ากินผลจากต้นไม้ทุกชนิดในสวนนี้’ ”

สัตว์ชนิดใดอยู่ในพระคำข้อนี้ มันคืองูตัวหนึ่ง เราจะเรียนในข้อ 15 ว่างูนั้นอยู่ใต้อำนาจของพญามาร และพญามารอาศัยอยู่ในร่างของงูนั้นเพื่อพูดคุยกับเอวา

เมื่อเอวาพบกับงูนั้นเป็นครั้งแรก เธอก็ไม่รู้ว่าเธอกำลังเผชิญหน้ากับพญามาร เธอคิดว่าเธอกำลังพูดกับงูธรรมดาๆตัวหนึ่ง

พระคำข้อนี้บอกเราว่างูนั้นฉลาดหลักแหลมกว่าบรรดาสัตว์ที่พระเจ้าทรงสร้าง ฉลาด ในที่นี้หมายความว่าอะไร? มันหมายถึง มีไหวพริบและเจ้าเล่ห์

พญามารได้เลือกงูนั้นและทำให้มันอยู่ภายใต้การควบคุมของมันเพื่อบรรลุจุดประสงค์ของมัน งูตัวนี้ฉลาด แต่ฉลาดในทางที่ไม่ดี

เอวาในเวลานั้นไม่ล่วงรู้ว่างูตัวนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของพญามารตอนที่มันพูดคุยกับเธอ แต่นั่นน่าจะทำให้เธอฉุกคิดบ้างและกล่าวว่า “มีอะไรบางอย่างผิดปกตินะ งูตัวนี้กำลังพูดคุยกับฉัน”

หากงูตัวหนึ่งเริ่มพูดคุยกับคุณ คุณจะทำอย่างไร? เป็นผมคงจะวิ่งหนีไปแล้ว เราเข้าใจว่างูไม่ควรจะพูดคุยกับมนุษย์ ในกรณีนี้งูนั้นกำลังพูดคุยกับเอวา

งูนั้นมีพฤติกรรมที่ผิดไปจากที่มันควรจะเป็น มันกำลังทำบางสิ่งที่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้กระทำ

มันควรเป็นสัญญาณเตือนแก่เราเมื่อเราเห็นสัตว์ตัวหนึ่งหรือคนๆหนึ่งทำบางสิ่งที่พวกเขาไม่ได้ถูกออกแบบมาให้กระทำ

ทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างนั้นดีรวมถึงงูตัวนั้นด้วย แต่พญามารใช้งูตัวนี้เพื่อทำบางสิ่งในทางที่ไม่ดี ซึ่งมันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้กระทำ

มันควรเตือนเอวาแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติ และเธอควรวิ่งหนีได้แล้ว

ในทำนองเดียวกัน เราควรรับคำเตือนเมื่อเราได้ยินผู้คนพูดจาต่อต้านพระเจ้า คุณคงไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับใครก็ตามที่เป็นแบบนั้น และควรเดินหนีไปเสีย

ต่อมาเราอ่านในพระคำข้อนี้ว่า “และมันกล่าวแก่หญิงนั้นว่า” สังเกตว่าพญามารพูดกับเอวา ไม่ใช่กับอาดัม มีเหตุผลที่ว่าทำไมพญามารคุยกับเอวา แทนที่จะเป็นอาดัม

ในบทเรียนที่แล้ว เราได้อ่านว่าพระเจ้าทรงพูดกับอาดัมโดยตรงเกี่ยวกับบรรดาต้นไม้แห่งสวนนั้น

หญิงนั้นไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วยตอนที่พระเจ้าทรงสั่งอาดัม เธอยังไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมา เธอได้รับคำสั่งเหล่านั้นของเธอจากสามีของเธอ นั่นคือ อาดัม

เนื่องจากเธอไม่ได้ยินพระดำรัสสั่งนั้นจากพระเจ้าโดยตรง พญามารจึงมาพยายามทำให้เอวาสงสัยพระวจนะของพระเจ้า มันกล่าวว่า “จริงหรือที่พระเจ้าตรัสว่า พวกเจ้าจงอย่ากินผลจากต้นไม้ทุกชนิดในสวนนี้”

มันบอกเอวาว่า พระเจ้าพูดเช่นนั้นจริงหรือ? จากนั้น หลังจากมันใส่ความสงสัยในความคิดของเอวาแล้ว มันยังบิดเบือนคำตรัสของพระเจ้าด้วย

พระเจ้าตรัสว่า “พวกเจ้าจงอย่ากินผลจากต้นไม้ทุกชนิดในสวนนี้” จริงหรือ? คำตอบคือ พระเจ้าไม่ได้ตรัสเช่นนั้น พระเจ้าตรัสว่าพวกเขากินผลจากต้นไม้ทุกต้นได้หมด ยกเว้นต้นเดียว

โดยการบิดเบือนพระวจนะของพระเจ้า มันทำให้เอวาสงสัยสิ่งที่พระเจ้าตรัส เอวาอาจสงสัยว่าอาดัมพูดความจริงกับเธอจริงๆหรือไม่ หรือบางทีเธออาจคิดว่าเขาเข้าใจสิ่งที่พระเจ้าตรัสสั่งนั้นผิดไป

สิ่งนี้ทำให้เอวาตั้งคำถามสิ่งที่พระเจ้าตรัส ซึ่งเป็นสิ่งที่พญามารอยากให้เป็น สิ่งนี้เกิดขึ้นกับเราเช่นกันในปัจจุบัน พญามารชอบที่จะบิดเบือนพระวจนะของพระเจ้า เพื่อทำให้คุณคิดว่ามันมีความหมายเป็นอื่น

สัญญาณเตือนแรกที่เอวาละเลยคือ อยู่กับสัตว์ตัวหนึ่งหรือคนๆหนึ่งที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้กระทำ สัญญาณเตือนที่สองเอวาละเลยคือ ตอนที่เอวาเริ่มสงสัยสิ่งที่พระเจ้าตรัส

พญามารชอบหลอกลวงผู้คนเพื่อที่พวกเขาจะไม่เชื่อพระเจ้าหรือพระวจนะของพระองค์ นั่นคือ พระคัมภีร์

คุณจะพบว่ามันเป็นแบบนี้ในชีวิตของคุณเช่นกัน เมื่อคุณเลิกเชื่อพระเจ้าและเริ่มเชื่อว่าทางของคุณนั้นดีกว่า คุณก็จะพบว่าตัวเองมีปัญหาทุกรูปแบบในชีวิต

พญามารยังใช้ผู้คนที่เคร่งศาสนาเพื่อบิดเบือนพระคำของพระเจ้าเพื่อสื่อข้อความที่แตกต่างไปจากที่พระเจ้าทรงตั้งใจไว้ด้วย นั่นจึงเป็นเหตุที่ว่าทำไมเราต้องศึกษาพระคัมภีร์

คนใดที่ไม่ได้พูดตามพระวจนะของพระเจ้า ก็ไม่ได้กำลังพูดความจริง ผมไม่อยากให้คุณรู้ว่าผมเชื่ออะไร แต่ผมอยากให้คุณรู้ว่าพระเจ้าตรัสอะไรในพระวจนะของพระองค์

กรุณาส่งข้อความถึงผม หากคุณอยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเข้าสู่ความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้า

**********

โปรดพิมพ์คำตอบและส่งให้เราทางอีเมล, Facebook Messenger, LINE หรือ WhatsApp ถ้าผ่านเราจะส่งบทเรียนต่อไปให้คุณ ถ้าหากคุณมีคำถามใด ๆ โปรดติดต่อเรา

คำถามบทเรียนที่ 10

1. เราพบสัตว์ชนิดใดในปฐมกาล 3:1? _______

2. ตามที่ปฐมกาล 3 ว่าไว้ งูนั้นตกอยู่ใต้อำนาจและการควบคุมของใคร? ________

3. ตามที่บทเรียนนี้ว่าไว้ ฉลาด หมายความว่าอะไร? ____________

4. ตามที่ปฐมกาล 3:1ว่าไว้ งูนั้น (พญามาร) พูดคุยกับใคร? ________

5. ตามที่พระคัมภีร์ว่าไว้

ก. เอวาได้ยินคำบัญชาของพระเจ้าที่สั่งมิให้กินผลจากต้นไม้ต้นนี้
ข. เอวาไม่ได้ยินคำบัญชาของพระเจ้าที่สั่งมิให้กินผลจากต้นไม้ต้นนี้ แต่ทราบคำสั่งนี้จากอาดัม

6. ตามที่บทเรียนนี้ว่าไว้ สัญญาณเตือนแรกที่เอวาเพิกเฉยคือ ตอนที่สัตว์ตัวหนึ่งหรือคนๆหนึ่งกำลังทำบางสิ่งที่พวกเขาไม่ได้ถูก _________ มาให้กระทำ

7. ตามที่บทเรียนนี้ว่าไว้ สัญญาเตือนที่สองที่เอวาเพิกเฉยคือ ตอนที่คุณเริ่มที่จะ _________ สิ่งที่พระเจ้าตรัส

8. ตามที่ปฐมกาล 3:1 ว่าไว้ พญามารบิดเบือนพระวจนะของพระเจ้าเพื่อทำให้เอวาสงสัยพระวจนะของพระเจ้า

ก. จริง
ข. เท็จ

9. ตามที่ปฐมกาล 3:1 ว่าไว้ พญามารพยายามหลอกหลวงผู้คนเพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่เชื่อพระวจนะของพระเจ้า

ก. จริง
ข. เท็จ

10. ตามที่บทเรียนนี้ว่าไว้ การวางใจสิ่งที่พวกคนเคร่งศาสนาพูดเกี่ยวกับพระเจ้าก็ดีกว่าการศึกษาพระคัมภีร์และรู้ว่าพระคัมภีร์กล่าวอะไรด้วยตัวคุณเอง

ก. จริง
ข. เท็จ

Email: jntlange@gmail.com
Facebook: www.facebook.com/ThaiBibleStudy
Line ID: 0871937157
WhatsApp: +66-87-193-7157