ถ้าหากนักศึกษาคนใดๆอยากได้รับใบประกาศเณียบัตรจากสหรัฐฯ เขาต้องส่งคำตอบมาถึงเราและถ้าผ่านเราก็จะส่งใบประกาศเณียบัตรไปให้เขา ขอส่งคำตอบมายังที่: biblestudythailand@gmail.com หรือ Facebook: www.facebook.com/ThaiBibleStudy หรือ Line ID: natwill78

เรียนพระคัมภีร์จากยุคสร้างโลกถึงชีวิตพระเยซูคริสต์

บทที่ 9 – อิสอัค


ปฐมกาล 21:1-3 พระเยโฮวาห์ทรงเยี่ยมซาราห์เหมือนที่พระองค์ตรัสไว้ และพระเยโฮวาห์ทรงกระทำแก่ซาราห์ดังที่พระองค์ทรงตรัสไว้ เพราะซาราห์ตั้งครรภ์ และคลอดบุตรชายคนหนึ่งให้อับราฮัมเมื่อท่านชราตามเวลาซึ่งพระเจ้าได้ตรัสกับท่าน อับราฮัมตั้งชื่อบุตรชายที่เกิดแก่ท่าน ผู้ซึ่งซาราห์คลอดให้ท่านนั้นว่า อิสอัค  

พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะประทานบุตรชายคนหนึ่งแก่อับราฮัมและนาง ซาราห์แม้ว่าคนทั้งสองจะแก่เกินไปที่จะมีบุตรแล้วก็ตาม แต่อีก 25 ปีต่อมา   พระเจ้าก็ทรงกระทำให้สำเร็จตามพระสัญญาที่มีต่ออับราฮัม  ขณะนั้นอับราฮัมมีอายุ 100 ปีและนางซาราห์ก็อายุ 90 ปีแล้ว  คนทั้งสองทราบดีว่า คงจะเป็นไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะมีบุตรเมื่อพวกเขาอายุขนาดนั้นกันแล้ว แต่พระเจ้าทรงกระทำให้สำเร็จตามพระสัญญาของพระองค์เสมอ และไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพระเจ้า เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงมีบุตรชายคนหนึ่ง และได้ตั้งชื่อบุตรนั้นว่า  อิสอัค

อิสอัค เป็นความภาคภูมิใจและความชื่นชมยินดีของอับราฮัม   หลายปีผ่านไป อิสอัคได้เติบโตขึ้นเป็นเด็กหนุ่ม  บิดามารดาของอิสอัคก็รักใคร่เอ็นดูอิสอัคเป็นอย่างยิ่ง  

อับราฮัมเชื่อว่าพระสัญญาทั้งหลายของพระเจ้าที่เกี่ยวข้องกับ“พระผู้ช่วยให้รอด”ที่จะเสด็จมานั้นจะสำเร็จผ่านทางอิสอัคและเชื้อสายของเขา อย่างไรก็ตามมีอยู่วันหนึ่งพระเจ้าตรัสบอกอับราฮัมให้กระทำสิ่งที่ยากที่สุด

ปฐมกาล 22:1,2  และต่อมาภายหลังเหตุการณ์เหล่านี้พระเจ้าทรงลองใจ         อับราฮัม และตรัสกับท่านว่า “อับราฮัม” ท่านทูลว่า“ดูเถิด ข้าพระองค์อยู่ที่นี่    พระเจ้าข้า” พระองค์ตรัสว่า “จงพาบุตรชายของเจ้าคืออิสอัค บุตรชายคนเดียวของเจ้าผู้ที่เจ้ารักไปยังแผ่นดินโมริยาห์และถวายเขาที่นั่นเป็นเครื่องเผาบูชาบนภูเขาลูกหนึ่งซึ่งเราจะบอกแก่เจ้า”  

พระเจ้าทรงบอกให้อับราฮัมถวายอิสอัคเป็นเครื่องบูชา  ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วอับราฮัมจะเป็นบิดาของประเทศที่ยิ่งใหญ่อย่างไรได้?  แล้ว“พระผู้ช่วยให้รอด”จะเป็นเชื้อสายคนหนึ่งของอับราฮัมได้อย่างไร?  แล้วพระสัญญาทั้งหลายของพระเจ้าจะสำเร็จผ่านทางอิสอัคได้อย่างไรถ้าอับราฮัมได้ฆ่าบุตรชายคนเดียวของตนเองเสียแล้ว?  พระเจ้าไม่ทรงเห็นชอบกับการถวายเด็กเป็นเครื่องบูชาอยู่แล้ว  พระองค์เพียงทดสอบอับราฮัมเพื่อจะลองใจดูว่าเขารักพระเจ้ามากกว่าบุตรชายของตนเองหรือไม่?  ช่างเป็นการทดสอบที่ยากอะไรเช่นนี้!

อับราฮัมไม่ได้สงสัยหรือตั้งคำถามกับพระเจ้าเลย  

อับราฮัมยอมรับสิ่งที่พระเจ้าทรงบัญชานั้น  เขาเชื่อพระเจ้าและรู้ว่าพระองค์ไม่สามารถจะตรัสคำโกหกได้  อับราฮัมรู้ว่า

พระเจ้าคงจะไม่ประทานพระสัญญาแก่เขาแล้วก็มาเปลี่ยนพระทัยในภายหลัง  พระเจ้าจะยังคงรักษาคำตรัสของพระองค์อย่างแน่นอน  การทดสอบความเชื่อในครั้งนี้เป็นการทดสอบที่ยากมากแต่อับราฮัมก็ไว้วางใจในพระเจ้า  อับราฮัมได้ค้นพบสิ่งที่แต่ละคนจำเป็นจะต้องค้นพบด้วยตัวเองว่า    พระเจ้าไม่เคยละเลยที่จะกระทำในสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้แล้ว  เราสามารถจะไว้วางใจพระองค์ได้อย่างเต็มที่  พระเจ้าทรงปรารถนาที่จะให้เราไว้วางใจในพระวจนะของพระองค์     

ปฐมกาล 22:3-5 อับราฮัมจึงลุกขึ้นแต่เช้ามืด ผูกอานลาของท่านพาคนใช้หนุ่มไปกับท่านด้วยสองคนกับอิสอัคบุตรชายของท่าน ท่านตัดฟืนสำหรับเครื่องเผาบูชา แล้วลุกขึ้นเดินทางไปยังที่ซึ่งพระเจ้าทรงตรัสแก่ท่าน พอถึงวันที่สาม       

 อับราฮัมเงยหน้าขึ้นแลเห็นที่นั้นแต่ไกล  อับราฮัมจึงพูดกับ

คนใช้หนุ่มของท่านว่า “อยู่กับลาที่นี่เถิด เรากับเด็กชายจะ

เดินไปนมัสการที่โน้น แล้วจะกลับมาพบเจ้า”

อับราฮัมเชื่อพระเจ้าอย่างแท้จริง  เขาได้กระทำสิ่งที่เขาควรจะกระทำมาจนถึงจุดนี้แล้ว  อับราฮัมตื่นแต่เช้าในวันรุ่งขึ้น  เขาไม่ได้ลังเลในการเชื่อฟัง  พระเจ้าเลย  อับราฮัมไว้วางใจจริง ๆว่าพระเจ้าจะทรงแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น  อับราฮัมรู้ว่าอิสอัคจะได้กลับไปพร้อมกับเขาด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งเพราะอับราฮัมได้บอกแก่พวกคนใช้ว่า“เรา”จะไปนมัสการแล้วจะกลับมาอีก    

ปฐมกาล 22:6-8  อับราฮัมเอาฟืนสำหรับเครื่องเผาบูชาใส่บ่าอิสอัคบุตรชายของตน ถือไฟและมีด แล้วบิดาลูกไปด้วยกัน  อิสอัคพูดกับอับราฮัมบิดาว่า“บิดาเจ้าข้า” และท่านตอบว่า“ลูกเอ๋ย บิดาอยู่ที่นี่” ลูกจึงว่า“นี่ไฟและฟืน แต่ลูกแกะสำหรับเครื่องเผาบูชาอยู่ที่ไหน” อับราฮัมตอบว่า“ลูกเอ๋ย พระเจ้าจะทรงจัดหาลูกแกะสำหรับพระองค์เองเป็นเครื่องเผาบูชา” บิดาลูกทั้งสองก็เดินต่อไปด้วยกัน  

อิสอัคเคยเห็นบิดาของเขานมัสการและถวายเครื่องบูชามาก่อน  อิสอัคไม่เข้าใจทำไมพวกเขาจึงไม่ได้นำแกะตัวหนึ่งไปพร้อมกับพวกเขาเพื่อจะถวายเป็นเครื่องบูชา  อับราฮัมตอบด้วยความมั่นใจว่าพระเจ้าจะทรงจัดเตรียมลูกแกะตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาสำหรับพระองค์เอง  อับราฮัมทราบว่า

พระเจ้าจะไม่ทำสัญญาเกี่ยวกับอิสอัคแล้วก็ไม่ยอมกระทำให้สำเร็จตามพระสัญญานั้น  อิสอัคจะต้องมีชีวิตอยู่!  และแม้ว่าอิสอัคจะตายอับราฮัมก็ตระหนักว่าพระเจ้าจะทรงนำอิสอัคให้กลับมามีชีวิตอีกเพื่อจะกระทำให้สำเร็จตามพระสัญญาทั้งหลายของพระองค์  นี่เป็นการทดสอบที่ยากสำหรับอับราฮัมอย่างแน่นอน แต่เขาก็ทราบว่าจะมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นบนยอดเขาเพื่อจะช่วยชีวิตของ อิสอัคไว้

การเชื่อในพระเจ้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เราสามารถจะกระทำได้  เพียงแค่การฟังพระวจนะของพระเจ้าไม่สามารถที่จะช่วยให้เราหลุดพ้นจากการควบคุมของซาตานได้  สมมุติว่าคุณเจ็บป่วยและไปหาหมอซึ่งหมอก็ได้สั่งจ่ายยาให้คุณ  คุณจะดีขึ้นไหมถ้าเพียงแต่ฟังหมอบอกคุณว่ายานี้จะช่วยคุณได้อย่างไร?  ก็คงจะไม่อย่างแน่นอน  คุณจำเป็นต้องกินยาจึงจะมีอาการดีขึ้นและรู้สึกดีขึ้นได้  ในทำนองเดียวกันการฟัง

พระวจนะของพระเจ้าเพียงอย่างเดียวก็ไม่อาจที่จะช่วยเราได้  พระเจ้าจะทรงยอมรับผู้ที่เชื่อพระองค์เหมือนอย่างอับราฮัมเท่านั้น

 ปฐมกาล 22:9,10 เขาทั้งสองมาถึงที่ซึ่ง  พระเจ้าตรัสบอกท่านไว้ อับราฮัมก็สร้างแท่นบูชาที่นั่น เรียงฟืนเป็นระเบียบแล้วมัดอิสอัคบุตรชายวางไว้บนแท่นบูชาบนฟืน แล้ว   อับบราฮัมก็ยื่นมือจับมีดจะฆ่าบุตรชาย  

 

อิสอัคเป็นเด็กหนุ่มที่สามารถจะต่อสู้ได้ แต่กลับไม่มีการต่อสู้ดิ้นรนใด ๆเลย  อิสอัคยอมอยู่ใต้อำนาจบิดาของเขาด้วยความเต็มใจ   เมื่ออิสอัคถูกมัดแล้วเขาก็ไม่มีทางที่จะหนีรอดได้อีกแล้ว  อิสอัคอยู่ในสภาพที่ช่วยตัวเองไม่ได้และไม่สามารถจะเอาตัวรอดได้เลย  เมื่อพระเจ้าทรงปิดประตูเรือของโนอาห์แล้วก็ไม่มีทางที่คนซึ่งอยู่นอกเรือจะหนีรอดได้  ในทำนองเดียวกันเมื่อพระเจ้าส่งลูกไฟให้ตกลงมานั้น  ชาวเมืองโสโดมและโกโมราห์ก็ไม่มีทางที่จะหนีรอดได้เช่นกัน

พระเจ้าทรงช่วยโนอาห์และครอบครัวให้รอดจากน้ำท่วม  พระเจ้าทรงช่วยโลทและลูกสาวทั้งหลายให้รอดจากไฟที่ทำลายล้างเมืองโสโดมและโกโมราห์ มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถจะช่วยอิสอัคให้รอดพ้นจากการถูกฆ่าได้  แล้วมีวิธีการใดที่เราจะสามารถช่วยตัวเองให้รอดพ้นจากการลงโทษนิรันดร์ในบึงไฟได้?  ไม่มีเลย! เราไม่สามารถช่วยตัวเองได้เลย  ไม่มีใครสามารถหนีพ้นจากการพิพากษาของพระเจ้าได้  มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถจะจัดเตรียมหนทางสำหรับมนุษย์ที่จะได้รับการยอมรับจากพระเจ้าและหลีกหนีจากบึงไฟได้

ปฐมกาล 22:10-13  แล้วอับราฮัมก็ยื่นมือจับมีดจะฆ่าบุตรชาย แต่ทูตสวรรค์ของพระเยโฮวาห์เรียกท่านจากฟ้าสวรรค์ว่า 

“อับราฮัม อับราฮัม”และท่านตอบว่า“ข้าพระองค์อยู่ที่นี่ 

พระเจ้าข้า” และพระองค์ตรัสว่า “อย่าแตะต้องเด็กนั้นหรือกระทำอะไรแก่เขาเลย เพราะบัดนี้เรารู้แล้วว่าเจ้ายำเกรง

พระเจ้า ด้วยเห็นว่าเจ้ามิได้หวงบุตรชายของเจ้า คือบุตรชายคนเดียวของเจ้าจากเรา”  อับราฮัมเงยหน้าขึ้นมองดู และดูเถิด ข้างหลังท่านมีแกะผู้ตัวหนึ่ง เขาของมันติดอยู่ในพุ่มไม้ทึบ อับราฮัมก็ไปจับแกะผู้ตัวนั้นมาถวายเป็นเครื่องเผาบูชาแทนบุตรชายของท่าน

พระเจ้าทรงช่วยชีวิตอิสอัคไว้!  ส่วนอับราฮัมก็ผ่านการทดสอบในครั้งนี้ได้!  พระเจ้าทรงบอกให้อับราฮัมอย่าฆ่าบุตรชายของตนเอง  ถึงแม้ว่าอับราฮัมจะรักอิสอัคมากกว่าสิ่งอื่นใดในแผ่นดินโลก แต่เขาก็ยังรักพระเจ้ามากยิ่งกว่านั้นอีก  พระเจ้าจึงทรงจัดเตรียมสัตว์ตัวหนึ่งไว้สำหรับเป็นเครื่องบูชา  พระเจ้าได้ทรงบันดาลให้มีแกะตัวผู้ตัวหนึ่งติดอยู่ในพุ่มไม้โดยที่เขาของมันเกี่ยวอยู่กับพุ่มไม้นั้น  อับราฮัมจึงฆ่าและเผาแกะตัวผู้นั้นเป็นเครื่องบูชาถวายแด่พระเจ้า  อิสอัคได้รับอิสรภาพเพราะว่าพระเจ้าทรงจัดเตรียมตัวแทนที่จะมาตายแทนเขาแล้ว  แกะตัวผู้นั้นนั่นเองที่เป็นตัวแทนของอิสอัค  

ปฐมกาล 22:14-19. อับราฮัมจึงเรียกสถานที่นั้นว่า เยโฮวาห์ยิเรห์ อย่างที่เขาพูดกันทุกวันนี้ว่า “ที่ภูเขาของพระเยโฮวาห์นั้น พระองค์ทรงทอดพระเนตร”  ทูตสวรรค์ของ

พระเยโฮวาห์เรียกอับราฮัมครั้งที่สองมาจากฟ้าสวรรค์ และตรัสว่า  “พระเยโฮวาห์ตรัสว่า เราปฏิญาณโดยตัวเราเองว่าเพราะเจ้ากระทำอย่างนี้และมิได้หวงบุตรชายของเจ้า คือบุตรชายคนเดียวของเจ้าเราจะอวยพรเจ้าแน่ เราจะทวีเชื้อสายของเจ้าให้มากขึ้น ดังดวงดาวในท้องฟ้าและดังเม็ดทรายบนฝั่งทะเล เชื้อสายของเจ้าจะได้ประตูเมืองศัตรูของเจ้าเป็นกรรมสิทธิ์ ประชาชาติทั้งหลายทั่วโลกจะได้พรเพราะเชื้อสายของเจ้า เพราะว่าเจ้าได้เชื่อฟังเสียงของเรา”       อับราฮัมจึงกลับไปหาคนใช้หนุ่มของท่าน เขาก็ลุกขึ้นแล้วพากันกลับไปยังเมืองเบเออร์เชบา อับราฮัมก็อาศัยอยู่ที่เบเออร์เชบา  

พระเจ้าทรงจัดเตรียมแกะตัวผู้ตัวหนึ่งให้มาตายแทนอิสอัค  อับราฮัมเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงจัดเตรียม“พระผู้ช่วยให้รอด”เพื่อจะทรงมีชัยชนะเหนือความชั่วร้ายเช่นเดียวกับที่พระองค์ได้จัดเตรียมแกะตัวผู้ตัวนั้นด้วย  ในบทเรียนสุดท้ายของเราเราจะได้เห็นบางสิ่งที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่านี้ซึ่งจะเกิดขึ้นบนภูเขาแห่งเดียวกันนี่เอง  อิสอัคอยู่ภายใต้พระบัญชาโดยตรงของพระเจ้าให้ต้องตายฉันใดมนุษยชาติทุกคนก็อยู่ภายใต้การพิพากษาให้ตายฉันนั้น  อิสอัคไม่สามารถจะช่วยชีวิตตนเองให้รอดได้ แต่อับราฮัมไว้วางใจพระเยโฮวาห์โดยเชื่อว่า

พระเจ้าของเขาที่ทรงเปี่ยมล้นด้วยความรักจะกระทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง แล้วพระเจ้าก็ได้ทรงยื่น

พระหัตถ์ของพระองค์เข้ามาแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นจริงๆ   พระองค์ทรงจัดเตรียมวิธีที่จะรอดพ้นออกมาได้โดยการใช้ตัวแทน คือการให้ผู้ที่ไม่มีความผิดมาตายแทนคนที่มีความผิดบาปนั้น

อาเบลได้ถวายเครื่องบูชาให้มาตายแทนตนเองฉันใด แกะตัวผู้ก็มาตายแทนอิสอัคฉันนั้น และพระเจ้าทรงยอมรับเครื่องบูชาของอาแบลฉันใด พระเจ้าก็ทรงยอมรับแกะตัวผู้ที่อับราฮัมถวายเป็นเครื่องบูชาเพื่อตายแทนอิสอัคฉันนั้น  เราไม่สามารถจินตนาการถึงการทดสอบที่ยากลำบากอย่างที่
อับราฮัมต้องเผชิญอยู่ได้  อย่างไรก็ตามเราสามารถจะเห็นได้ว่าพระเจ้าทรงประทานบำเหน็จแก่   อับราฮัมสำหรับความเชื่อของเขา พระองค์ทรงจัดเตรียมหนทางที่จะช่วยให้     อิสอัค
รอดชีวิตได้  ด้วยเหตุนี้เชื้อสายแห่งบรรพบุรุษของ
“พระผู้ช่วยให้รอด” ที่ทรงสัญญาก็ยังคงถูกรักษาไว้อย่างดี  เราสามารถจะไว้วางใจพระเจ้าได้อย่างเต็มที่ว่าพระองค์จะทรงกระทำให้สำเร็จตามพระสัญญาทั้งหลายของพระองค์   ใช่แล้ว พระเจ้าจึงสมควรที่จะได้รับความไว้วางใจจากเราทั้งหลายทุกคน! 

คำถามบทที่ 9

1. พระเจ้าทรงบอกให้อับราฮัมทำอะไร 

ก) สร้างวัด     

ข) ย้ายไปประเทศอียิปต์  

ค) ถวายอิคอัสเป็นเครื่องบูชา

2. ทำไมพระเจ้าทรงให้เขาทำอย่างนั้น

ก) เพื่อจะทรงลองดูว่าเขารักพระเจ้ามากกว่าลูกชายของเขา

ข) มีความอดอยากในแผ่นดินคานาอัน

ค) พระเจ้าไม่ทรงรักอิสอัค

3. อับราฮัมคิดว่าพระเจ้าจะทรงทำอย่างไรถ้าเขาฆ่าอิสอัค

ก) พระเจ้าจะทรงส่งอิสอัคไปบึงไฟนรก

ข) พระเจ้าจะไม่ทรงรักอับราฮัมอีกเลย

ค) พระเจ้าจะทรงทำให้อิสอัคมีชีวิตขึ้นมาใหม่

4. เมื่ออิสอัคถูกมัดวางไว้บนแท่นบูชาแล้วนั้น เขาจะมีทางหนี       รอดไปได้หรือไม่

ก) ได้

ข) ไม่ได้

5. มีทางที่ใครคนใดคนหนึ่งจะสามารถช่วยตัวเองให้รอดพ้น  
    จากการตกนรกเพราะบาปที่ตัวเองทำไว้ได้หรือไม่

ก) ได้

ข) ไม่ได้

6. ใครช่วยชีวิตอิสอัคไว้ 

ก) พระเจ้า

ข) อับราฮัม

ค) ซาตาน

7. ใครเป็นผู้จัดหาเครื่องบูชาอื่นมาแทนที่ชีวิตของอิสอัค

ก) พระเจ้า

ข) อับราฮัม

ค) ซาตาน