ถ้าหากนักศึกษาคนใดๆอยากได้รับใบประกาศเณียบัตรจากสหรัฐฯ เขาต้องส่งคำตอบมาถึงเราและถ้าผ่านเราก็จะส่งใบประกาศเณียบัตรไปให้เขา ขอส่งคำตอบมายังที่: biblestudythailand@gmail.com หรือ Facebook: www.facebook.com/ThaiBibleStudy หรือ Line ID: natwill78

เรียนพระคัมภีร์จากยุคสร้างโลกถึงชีวิตพระเยซูคริสต์

บทที่ 4 “คาอินและอาแบล”


จะมีอะไรเกิดขึ้นเมื่อมีใครสักคนปฏิเสธที่จะเชื่อ

พระเจ้าและเลือกที่จะไม่เชื่อฟังพระองค์?  การที่คนหนึ่งคนใดไม่เชื่อฟังจะมีผลต่อคนอื่น ๆด้วยหรือเปล่า?  จริงหรือที่ว่ามนุษย์แต่ละคนสามารถจะเลือกวิธีการของตนเองเพื่อจะไปถึงพระเจ้าได้?  เราจะมาตอบคำถามเหล่านี้และคำถามอื่น ๆที่เกี่ยวข้องขณะที่เราศึกษาเรื่องราวของคาอินและอาแบลด้วยกัน

พระเจ้าทรงทราบว่ามนุษย์ทุกคนที่เกิดมาในโลกเป็นคนบาปและถูกแยกจากพระองค์  พระเจ้าจึงทรงวางแผนการไว้วิธีหนึ่งเพื่อที่มนุษย์จะสามารถมาถึงพระองค์และได้รับการยอมรับจากพระองค์ได้  ขอให้จำไว้ว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้ที่เลือกวิธีการดังกล่าว ไม่ใช่มนุษย์เป็นผู้เลือก  

พระเจ้าทรงบัญชาแก่อาดัมและเอวาว่า ถ้าคนทั้งสองอยากจะให้  พระเจ้ายอมรับพวกเขาพวกเขาจะต้องนำแกะตัวหนึ่งมาถวายเป็นเครื่องบูชา  สัตว์ตัวนี้จะต้องถูกฆ่าในลักษณะที่จะต้องมีเลือดไหลออก  พระเจ้าไม่ได้ยอมรับเลือดสัตว์เป็นเครื่องปกปิดสำหรับการไม่เชื่อฟังของมนุษย์ แต่พระองค์ทรงปรารถนาให้พวกเขาจำไว้ว่าโทษทัณฑ์สำหรับการไม่เชื่อฟัง คือความตายซึ่งจะทำให้พวกเขาต้องไปสู่บึงไฟ  นอกเสียจากว่าพระองค์จะทรงช่วยพวกเขาให้รอด  ถ้าพวกเขาเชื่อพระเจ้าและปรารถนาที่จะกระทำตามวิธีการของพระเจ้าแทนที่จะกระทำตามวิธีของตนเองพวกเขาจะต้องนำแกะตัวหนึ่งมาฆ่าตามที่พระเจ้าได้ตรัสสั่งแก่เขา   เครื่องบูชาด้วยเลือดเป็นส่วนหนึ่งในแผนการของพระเจ้าที่จะช่วยมนุษย์ให้รอดพ้นจากความชั่วร้ายของ ซาตานและความตาย  

ปฐมกาล 4:1-2  อาดัมได้สมสู่กับเอวาภรรยาของเขา นางได้ตั้งครรภ์ และคลอดบุตรชื่อคาอิน จึงกล่าวว่า “ข้าพเจ้าได้รับชายคนหนึ่งจากพระเยโฮวาห์”  นางได้คลอดบุตรอีกครั้งหนึ่งซึ่งเป็นน้องชายของเขาชื่ออาแบล อาแบลเป็นคนเลี้ยงแกะ แต่คาอินเป็นคนทำไร่ไถนา

    หลังจากที่อาดัมกับเอวาถูกไล่ออกจากสวนเอเดนแล้วพวกเขาก็มีบุตรชายสองคน ชื่อคาอินและอาแบล

 ปฐมกาล 4:3-5   อยู่มาวันหนึ่งปรากฏว่า คาอินได้นำผลไม้จากไร่นามาเป็นเครื่องบูชาถวายพระเยโฮวาห์  เช่นกันอาแบลได้นำผลแรกจากฝูงแกะของเขาและไขมันของแกะ พระเยโฮวาห์ทรงพอพระทัยต่ออาแบลและเครื่องบูชาของเขา  แต่พระองค์ไม่ทรงพอพระทัยต่อคาอินและเครื่องบูชาของเขา และคาอินได้

โกรธแค้นยิ่งนัก สีหน้าหม่นหมองไป 

  คาอินกับอาแบลเชื่อว่าพระเจ้ามีจริง คนทั้งสองจึงมาถวายเครื่องบูชาแก่พระองค์ อาดัมกับเอวาได้บอกคาอินกับ

อาแบลเกี่ยวกับพระบัญชาของพระเจ้าว่าจะต้องถวายเครื่องบูชาอย่างไรสำหรับการไม่เชื่อฟังของตนเอง  อาแบลนำลูกแกะตัวหนึ่งมาถวายเป็นเครื่องบูชาแก่พระเจ้าตามที่พระเจ้าได้ทรงบัญชาไว้นั้น แต่คาอินไม่เชื่อฟังและได้นำผลไม้มาถวาย ทั้ง ๆที่เขาสามารถจะนำลูกแกะตัวหนึ่งเหมือนอย่างอาแบลน้องชายของเขามาถวาย แต่เขากลับนำผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำของเขาเองมาถวาย  พระเจ้าไม่ยอมรับเครื่องบูชาของเขา  อาแบลเชื่อฟังวิธีการของพระเจ้า ส่วนคาอินนั้นพยายามที่จะได้รับการยอมรับจากพระเจ้าตามวิธีการของตนเอง เช่นเดียวกับใบไม้ที่อาดัมเละเอวานำมาสวมใส่ตอนที่อยู่ในสวนเอเดนนั้น  ไม่ว่าจะเป็นใบไม้ หรือเครื่องบูชาของคาอินต่างก็ไม่เป็นที่ยอมรับเพราะนั่นไม่ใช่วิธีการของพระเจ้า  

คาอินและอาแบลเป็นตัวแทนที่แสดงถึงกลุ่มคนสองกลุ่มด้วยกัน พวกแรกคือคาอินซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มที่มานมัสการพระเจ้าตามความคิดของมนุษย์ พวกที่สองคืออาแบลซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มที่มานมัสการพระเจ้าด้วยวิธีการของพระเจ้า

อาแบลนำแกะตัวหนึ่งจากฝูงแกะของเขามาเป็นเครื่องบูชาแก่พระเจ้า เขาได้ฆ่าแกะตัวนั้น เพื่อให้เลือดไหลออกและถวายแกะนั้นแก่พระเจ้าตามที่พระองค์ได้ทรงบัญชาไว้  

พระเจ้าไม่ได้ยอมรับลูกแกะของอาแบลเป็นค่าชดใช้สำหรับการไม่เชื่อฟังของเขา แต่พระเจ้าทรงให้อภัยโทษและยอมรับอาแบลเพราะเขาเชื่อพระเจ้า  เขามาหาพระเจ้าด้วยวิธีการที่พระองค์ได้ทรงบัญชาไว้  

คาอินนำพืชผักที่ตนเองปลูกมาถวายพระเจ้า  พระเจ้าทรงปฏิเสธของถวายจากคาอินเพราะคาอินไม่ได้มาหาพระเจ้าด้วยวิธีการที่พระเจ้าทรงบัญชาไว้  เขามาหาพระเจ้าด้วยวิธีการของเขาตามความคิดของตนเอง คาอินไม่ได้เชื่อสิ่งที่พระเจ้าตรัส ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ไว้วางใจในวิธีการซึ่งพระเจ้าทรงแจ้งแก่เขาแล้ว

พระเจ้าทรงปฏิเสธเครื่องปกปิดของอาดัมกับเอวาได้ทำขึ้นฉันใด พระองค์ก็ทรงปฏิเสธเครื่องบูชาของคาอินฉันนั้น  พระเจ้าทรงปรารถนาที่จะแสดงให้อาดัมและเอวาเห็นว่าพวกเขาไม่สามารถจะกระทำให้ตนเองเป็นที่พอพระทัยพระองค์ด้วยสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เขาสามารถจะกระทำได้ เพราะจะต้องกระทำตามวิธีการของพระเจ้าเท่านั้น คือจะต้องมีสัตว์ตายและเลือดของมันจะต้องไหลออกเพื่อว่าอาดัมและเอวาจะมีเครื่องปกปิดซึ่งเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าได้  ในทำนองเดียวกัน

พระเจ้าจะไม่ยอมรับคาอินและอาแบลนอกเสียจากว่าพวกเขาจะไว้วางใจในพระองค์และมาหาพระองค์ด้วยวิธีการพระองค์ได้ตรัสไว้  พระเจ้าจะทรงยอมรับพวกเขาถ้าพวกเขานำแกะตัวหนึ่งมาฆ่าและให้เลือดของมันไหลออกเท่านั้น  อาแบลเชื่อพระเจ้าและมาหาพระเจ้าด้วยวิธีการของพระองค์ ดังนั้น 

พระเจ้าจึงทรงยอมรับเขา ส่วนคาอินมาหาพระเจ้าด้วยความไว้วางใจในวิธีการของตนเอง พระเจ้าจึงทรงปฏิเสธเขา

ปฐมกาล 4 :6-7   พระเยโฮวาห์ได้ตรัสแก่คาอินว่า “ทำไมเจ้าถึงโกรธแค้น และทำไมสีหน้าเจ้าหม่นหมองไป  ถ้าเจ้าทำดี เจ้าจะไม่เป็นที่ยอมรับหรอกหรือ ถ้าเจ้าทำไม่ดี บาปก็ซุ่มอยู่ที่ประตู มันปรารถนาในตัวเจ้า และเจ้าจะครอบครองมัน” 

พระเจ้ายังคงติดต่อกับคาอินที่ไม่เชื่อฟัง  ประเด็นหลักสำหรับพระคัมภีร์ตอนนี้คืออะไร? ประเด็นหลักนั้นก็อยู่ตรงคำถามที่ว่า “เจ้าจะไม่เป็นที่ยอมรับหรอกหรือ?”  พระเจ้าทรงปรารถนาที่จะยอมรับมนุษย์ได้ แต่พวกเขาจะต้องเชื่อพระองค์และประพฤติตามวิธีการของพระองค์เสียก่อน  

 ปฐมกาล 4:8   คาอินพูดกับ

อาแบลน้องชายของเขา ต่อมาเมื่อเขาทั้งสองอยู่ในที่นาด้วยกัน คาอินได้ลุกขึ้นต่อสู้อาแบลน้องชายของเขาและฆ่าเขา 

    คาอินปฏิเสธข้อเสนอของพระเจ้าและได้ฆ่าอาแบลน้องชายของตนเสีย!  คาอินเห็นแก่ตัวและไม่เชื่อฟัง  ท่าทีของเขาได้แปรเปลี่ยนไปเป็นความเกลียดชังและการฆาตกรรม   เครื่องบูชาของอาแบลเป็นที่ยอมรับของพระเจ้า ดังนั้นเราจึงแน่ใจว่าเขาได้ไปอยู่กับพระเจ้า และแม้แต่ในเวลานี้อาแบลก็ยังอยู่กับพระองค์ในสวรรค์นั่นเอง

ปฐมกาล 4:9-11, 16   พระเยโฮวาห์ตรัสแก่คาอินว่า “อาแบลน้องชายของเจ้าอยู่ที่ไหน” เขาทูลว่า “ข้าพระองค์ไม่ทราบ ข้าพระองค์เป็นผู้ดูแลน้องชายหรือ”  พระองค์ตรัสว่า “เจ้าทำอะไรไป เสียงร้องของโลหิตน้องชายของเจ้าร้องจากดินถึงเรา  บัดนี้เจ้าถูกสาปแช่งจากแผ่นดินแล้ว ซึ่งได้อ้าปากรับโลหิตน้องชายของเจ้าจากมือเจ้า ...”  คาอินได้ออกไปจากพระพักตร์ของพระเยโฮวาห์ และอาศัยอยู่เมืองโนดทางด้านทิศตะวันออกของเอเดน  

    พระเจ้าทรงสถิตอยู่ทุกหนทุกแห่งและทรงรอบรู้ทุกสิ่งสารพัดพระเจ้าทรงถามคำถามในพระคัมภีร์ข้อนี้กับคาอินแม้ว่าพระองค์จะทรงทราบคำตอบแล้วแต่ยังทรงปรารถนาที่จะให้คาอินยอมสารภาพความผิดของตนเอง  การชั่วร้ายใด ๆที่ได้กระทำต่อผู้อื่นก็กระทำต่อพระเจ้าด้วย เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้สร้างมนุษย์ทั้งปวง  อย่างไรก็ตามคาอินยังคงไม่ยอมฟังพระเจ้าเขาจึงถูกไล่ออกไปให้พ้นจากพระพักตร์พระองค์  

คาอินประพฤติตามวิถีทางของซาตานโดยปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแปลงท่าทีของเขาที่มีต่อพระเจ้าและท่าทีที่มีต่อการไม่เชื่อฟังของตนเอง  คาอินไม่เคยเปลี่ยนวิธีการของเขาเลย  เขาไม่เคยยอมรับความผิดของตนเองและไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องรับการอภัยโทษ  ผลที่เกิดขึ้นก็คือ  คาอินไม่เคยเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า   เมื่อคาอินตายจิตวิญญาณของเขาก็ถูกแยกจากพระเจ้าตลอดไปเป็นนิตย์และถูกทิ้งลงในบึงไฟ    เรื่องราวของคาอินถือได้ว่าเป็นอุทาหรณ์สำหรับเตือนสติมนุษย์ทุกคน  เราคงไม่อยากจะตัดสินใจเลือกในสิ่งเดียวกับที่คาอินได้กระทำลงไป  เขาดื้อดึงและเห็นแก่ตัว ดังนั้นเขาจึงสูญเสียโอกาสที่จะได้อยู่กับพระเจ้าหลังจากที่เขาตายไป  การตัดสินใจของเขาก็ช่างโง่เขลาเสียจริง ๆ

ให้เรามาใคร่ครวญถึงกิ่งไม้ที่ถูกหักออกจากต้นกันอีกซักครั้ง  กิ่งไม้เฉาตายเพราะถูกแยกจากชีวิตที่มันได้รับจากต้นไม้นั้น  ไม่มีทางที่จะนำกิ่งไม้ที่ตายแล้วนั้นกลับไปติดรวมกับต้นไม้เพื่อให้กิ่งไม้มีชีวิตได้อีก  มนุษย์เองก็เช่นกันที่เกิดมาโดยถูกแยกและ“หลุด”จากแหล่งชีวิตของเราคือพระเจ้านั่นเอง   คนส่วนใหญ่จึงใช้ชีวิตของเขาด้วยการพยายามที่จะค้นหาหนทางที่จะให้ตัวของเขาเอง“ติดเข้ากับ”แหล่งชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณอีกครั้ง  ความพยายามของคนเหล่านี้อาจจะดูเหมือนว่าเคร่งศาสนามาก แต่โดยความเป็นจริงแล้วไม่มีอะไรที่เราจะสามารถกระทำโดยตัวของเราเองเพื่อจะนำเรากลับไปหาพระเจ้าได้อีก  

การไม่เชื่อฟังได้ทำให้เราแตกหักจากพระเจ้าเช่นเดียวกับกิ่งไม้ที่ถูกหักออกจากต้น พระเจ้าทรงปฏิเสธเครื่องปกปิดของอาดัมกับเอวา และ     พระเจ้าก็ทรงปฏิเสธเครื่องบูชาของคาอิน เพราะพวกเขาพยายามที่จะได้รับการยอมรับจากพระเจ้าโดยการกระทำของตนเอง มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถจะกำหนดวิธีที่จะทำให้พวกเขาเป็นที่ยอมรับจากพระองค์ได้  มนุษย์ทุกคนที่กำเนิดมาในโลกนี้ต่างก็ถูกแยกจากพระเจ้าเพราะเหตุจากการไม่เชื่อฟังและการกบฎขัดขืนของเขาเอง  อย่างไรก็ตามพระเจ้าได้ทรงจัดเตรียมวิธีที่จะทำให้มนุษยชาติทุกคนได้รับการยอมรับจากพระองค์ และหลังจากที่เขาตายแล้วก็จะได้ไปอยู่กับพระองค์ในสวรรค์เป็นนิตย์นิรันดร์  ข้อความในพระคัมภีร์ก็ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งสิ้น  

ปฐมกาล 4:25   อาดัมได้สมสู่กับภรรยาของเขาอีกครั้งหนึ่ง นางได้คลอดบุตรชายคนหนึ่ง และเรียกชื่อของเขาว่าเสท นางพูดว่า “เพราะว่าพระเจ้าทรงโปรดให้ข้าพเจ้ามีเชื้อสายอีกคนหนึ่งแทนอาแบล ผู้ซึ่งถูกคาอินฆ่าตาย” 

พระเจ้าทรงประทานบุตรให้แก่อาดัมกับเอวาอีกคนหนึ่งชื่อ เสท เพื่อมาแทนที่อาแบลซึ่งถูกคาอินฆ่าตายนั้น  

พระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้แล้วว่าจะส่ง   “พระผู้ช่วยให้รอด”มาให้ ผู้ซึ่งจะมาจากเชื้อสายของอาแบล แต่ซาตานได้ชักนำให้

คาอินฆ่าอาแบลเสีย   ซาตานพยายามทุกวิถีทางที่จะขัดขวางแผนการของพระเจ้าที่จะส่ง“พระผู้ช่วยให้รอด”มาช่วยมนุษย์ให้รอด แต่คงไม่มีใครต่อสู้กับพระเจ้าและสามารถจะเอาชนะพระองค์ได้  พระเจ้าทรงวางแผนที่จะนำ      “พระผู้ช่วยให้รอด”  ผ่านมาทางเชื้อสายของเสท

คุณคิดว่าลูกหลานของอาดัมกับเอวาได้เรียนรู้บทเรียนจากความผิดพลาดและการตัดสินใจเลือกที่แย่ ๆของคนทั้งสองหรือเปล่า?  เราจะมาค้นหาคำตอบกันในบทเรียนต่อไปว่าพวกเขาจะดีขึ้นหรือเลวลงสักเพียงใด

 คำถามบทที่ 4

1. ทำไมพระเจ้าทรงพอพระทัยเครื่องบูชาของอาแบล

      ก) พระองค์ทรงรักอาแบล

      ข) เพราะอาแบลทำงานหนักเพื่อที่จะเติบโตขึ้นทั้งทางฝ่าย
           ร่างกายและวิญญาณ

       ค) เพราะอาแบลเชื่อในพระเจ้า

2. ทำไมพระเจ้าจึงทรงปฏิเสธเครื่องบูชาของคาอิน

      ก) เพราะพระเจ้าไม่ทรงรักคาอิน

      ข) เพราะคาอินเป็นคนบาป

      ค) เพราะเขาไม่ได้ปฏิบัติและเชื่อฟังตามพระบัญญัติของ
           พระเจ้า

3. ทำไมพระเจ้าทรงชี้แจงเหตุผลแก่คาอิน

        ก) พระองค์ทรงอยากให้คาอินสารภาพบาปของเขาและ
             เชื่อในพระองค์เพื่อที่พระองค์จะทรงยอมรับเขา

        ข) พระองค์ทรงอยากได้เพื่อนสนิท

        ค) พระองค์ทรงอยากให้คาอินมีโอกาสในการทำบุญ

4. คาอินเชื่อและเห็นด้วยกับพระเจ้าหรือไม่

ก) เห็นด้วย

ข) ไม่เห็นด้วย

5. คาอินทำอะไรกับอาแบลน้องชายของเขา

ก) ช่วยเขา     

ข) ฆ่าเขา

ค) ละเลยเขา

6. พระเจ้าทรงรู้ถึงสิ่งที่คาอินทำได้อย่างไร

ก) พระองค์ทรงรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง

ข) คาอินบอก

ค) อดัมและเอวาบอก