ถ้าหากนักศึกษาคนใดๆอยากได้รับใบประกาศเณียบัตรจากสหรัฐฯ เขาต้องส่งคำตอบมาถึงเราและถ้าผ่านเราก็จะส่งใบประกาศเณียบัตรไปให้เขา ขอส่งคำตอบมายังที่: biblestudythailand@gmail.com หรือ Facebook: www.facebook.com/ThaiBibleStudy หรือ Line ID: natwill78

เรียนพระคัมภีร์จากยุคสร้างโลกถึงชีวิตพระเยซูคริสต์

บทที่ 20 – หนทางไปสู่ชีวิตนิรันดร์


มีแผ่นดินในประเทศอิสราเอลมากมายที่แห้งแล้งและไม่อุดมสมบูรณ์ และบางครั้งก็ยากที่จะหาหญ้าสำหรับให้แกะกิน  ผู้เลี้ยงแกะมักจะต้องออกจากบ้านเรือนของตนเองและนำฝูงแกะของเขาไปเป็นระยะทางไกลๆ   เพื่อจะหาอาหารให้ฝูงแกะ   หลายครั้งที่ผู้เลี้ยงแกะอยู่ไกลจากบ้านเรือนของตนเองมากขณะที่พลบค่ำแล้วซึ่งทำให้พวกเขาต้องนอนกลางทุ่งกับฝูงแกะของเขา  การนอนหลับในที่โล่งนั้นเป็นสิ่งที่อันตรายมาก  เพราะจะมีโจรที่พยายามเข้ามาลักขโมยแกะ  และยังมีสัตว์ป่าที่จะมาฆ่าแกะเหล่านั้นด้วย ดังนั้นผู้เลี้ยงแกะจึงต้องเสาะหาถ้ำไว้พักค้างคืนหรือสร้างคอกแกะที่ทำด้วยก้อนหินและพุ่มไม้หนาม  ผู้เลี้ยงแกะจะเอาแกะไปไว้ในพื้นที่ที่มีการป้องกันนี้และเอนกายลงเพื่อนอนขวางทางเข้านั้นไว้   ประตูที่จะนำไปสู่คอกแกะมีอยู่เพียงประตูเดียวเท่านั้นและผู้เลี้ยงแกะก็ทำหน้าที่เหมือนกับเป็นประตูนั่นเอง

ยอห์น 10:7,8   พระเยซูจึงตรัสกับเขาอีกว่า“เราบอกความจริงแก่ท่านว่า เราเป็นประตูของแกะทั้งหลาย  บรรดาผู้ที่มาก่อนเรานั้นเป็นขโมยและโจร แต่ฝูงแกะก็มิได้ฟังเขา

พระเยซูทรงหมายความว่าพระองค์เป็นหนทางซึ่งนำไปสู่สถานที่     ที่ปลอดภัยและมีความมั่นคงในโลกภายนอกมีซาตาน วิญญาณชั่วทั้งหลายของมัน ความบาปและความตาย  พวกมันเป็นเหมือนโจรและสัตว์ป่าที่ต้องการจะฆ่าแกะกิน   ซาตานต้องการจะทำให้พวกที่“อยู่นอกคอกแกะ”นั้นเชื่อว่าเขตแดนของมันปลอดภัยกว่า  มันกระซิบที่หูของผู้ที่ปรารถนาจะเข้ามาในคอกของพระเจ้าว่า “แล้วคนอื่นจะคิดยังไงกับคุณล่ะ?” 

ซาตานไม่ต้องการให้คุณเข้าไปถึงความปลอดภัย  และความมั่นคงในคอกของพระเจ้า   มันจะใช้ความเย่อหยิ่งและความกลัวเพื่อจะขัดขวางไม่ให้คุณสามารถเข้าไปได้   ซาตานเป็นผู้มุสาและผู้ล่อลวงเหมือนอย่างที่เราได้อ่านใน
พระวจนะของพระเจ้าแล้ว   มันพยายามยั่วยุให้เราเกิดความปรารถนาที่จะทำบาป  ซาตานได้ล่อลวงและทำลายมนุษย์มาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว  เราทั้งหลายเกิดมาภายใต้การควบคุมของมัน   เป้าหมายของมัน คือการทำลายเราเพื่อเราทั้งหลายจะถูกแยกจากพระเจ้าตลอดไปเป็นนิตย์   มันพยายามที่จะกระทำทุกอย่างที่มันสามารถจะกระทำได้เพื่อทำให้ดูเหมือนว่าทางของมันเป็นทางที่ดีที่สุด แต่แท้ที่จริงแล้วมันเป็นหนทางแห่งความตาย

ประตูที่นำไปสู่คอกแกะของพระเจ้ามีเพียงประตูเดียวเท่านั้นและภายในคอกแกะก็เป็นสถานที่อย่างแท้จริงสำหรับความปลอดภัย  ความมั่นคงและชีวิต นิรันดร์  พระเยซูทรงเป็นพระเจ้าและพระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น  พระเยซูทรงเป็นประตูเพียงประตูเดียวเท่านั้นที่นำไปสู่ชีวิต        นิรันดร์  ไม่มีทางอื่นที่จะนำไปถึงสวรรค์ได้เลย  ผู้เลี้ยงแกะรักและดูแลฝูงแกะของเขาฉันใด พระเยซูเจ้าก็ทรงรักและดูแลมนุษยชาติทั้งปวงฉันนั้น  พระองค์ทรงปรารถนาจะเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเรา  ที่จะช่วยเราให้รอดพ้นจากซาตาน ความบาป และการถูกแยกจากพระเจ้าตลอดไปเป็นนิตย์ 

 ยอห์น 10:9-11   เราเป็นประตู ถ้าผู้ใดเข้าไปทางเรา ผู้นั้นจะรอด และเขาจะเข้าออก แล้วจะพบอาหาร  ขโมยนั้นย่อมมาเพื่อจะลักและฆ่าและทำลายเสีย เราได้มาเพื่อเขาทั้งหลายจะได้ชีวิต และจะได้อย่างครบบริบูรณ์  เราเป็นผู้เลี้ยงที่ดี ผู้เลี้ยงที่ดีนั้นย่อมสละชีวิตของตนเพื่อฝูงแกะ

ประตูที่นำไปสู่คอกแกะมีเพียงประตูเดียวฉันใด  
พระเยซูก็ทรงเป็นทางเข้าประตูเพียงทางเดียวที่นำไปสู่ชีวิตนิรันดร์ฉันนั้น  อาจจะมีบางคนมาพูดกับคุณว่าสิ่งที่พระคัมภีร์สอนนั้นเหมาะสำหรับคริสเตียนเท่านั้น  แต่ยังมีศาสนาอื่นๆ ที่นำคนไปถึงพระเจ้าด้วย   คำสอนนี้เป็นคำพูดโกหกของซาตาน เพราะที่จริงแล้วไม่ได้มีหนทางมากมายหรือประตูหลายประตูที่จะนำไปสู่การเป็นที่ยอมรับของพระเจ้าได้  หนทางที่นำไปสู่ชีวิตนิรันดร์นั้นไม่ได้มีมากมายเลย  มีประตูเพียงประตูเดียวเท่านั้นที่นำไปถึงพระเจ้าและถึงชีวิตนิรันดร์ได้  พระเยซูทรงเป็นประตูนั้น   พระองค์เสด็จมาเพื่อจะทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดสำหรับมนุษย์ทั้งปวงที่อาศัยอยู่ทุกหนทุกแห่งไม่ว่าคนๆ นั้นจะพูดภาษาใด  หรือมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร   คุณคงจะจำตอนที่พระเจ้าตรัสบอกให้โนอาห์สร้างนาวาได้  พระเจ้าทรงบัญชาให้โนอาห์สร้างเรือเพียงลำเดียวและให้สร้างประตูในเรือลำนั้นเพียงประตูเดียว   มีเพียงคนที่ผ่านเข้าไปในนาวาทางประตูๆ เดียวเท่านั้นที่รอดจากการพิพากษาของพระเจ้า และวิธีที่จะผ่านประตูเข้าไปเพื่อไปถึงชีวิตนิรันดร์นั้น คือการเห็นด้วยกับพระเจ้าและพระวจนะของพระองค์และไว้วางใจในพระเยซูที่ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดเท่านั้น   พระเยซูทรงเป็นทางเข้าประตูที่นำไปถึงพระเจ้าและไม่มีทางอื่นเลย

พระเยซูตรัสว่าพระองค์ไม่เหมือนซาตานที่จ้องแต่จะทำลายมนุษย์เท่านั้น  พระเยซูเสด็จเข้ามาในโลกเพื่อจะประทานชีวิตนิรันดร์แก่ทุกคนที่เชื่อในพระองค์   คำพูดโกหกอย่างหนึ่งของซาตานก็คือทางของมันเป็นทางที่ดีที่สุดซึ่งเป็นทางที่สนุกและน่าสนใจที่สุดที่จะได้ใช้ชีวิตแบบนั้น  มันได้ให้ความยินดีอย่างเพียงพอที่จะทำให้คนทั้งหลายคิดว่าทางของมันดีกว่าทางที่พระเยซูคริสต์ได้ทรงเตรียมไว้ให้   ช่างเป็นคำโกหกที่ชั่วร้ายอะไรเช่นนั้น   พระคัมภีร์ได้อธิบายไว้อย่างชัดเจนว่าทุกคนที่ปฏิเสธที่จะเชื่อข้อเสนอของพระเยซูว่าจะทรงประทานชีวิตให้ก็จะถูกแยกจากพระเจ้าและถูกลงโทษในบึงไฟตลอดไปเป็นนิตย์       พระเยซูเสด็จเข้ามาในโลกเพื่อจะประทานชีวิตนิรันดร์  แก่คนทั้งหลายที่เชื่อในพระองค์

พระเยซูได้เคยบอกแก่สาวกทั้งหลายของพระองค์แล้วว่าบรรดาผู้นำของพวกยิวจะไม่เชื่อว่าพระองค์ทรงเป็น
พระบุตรของพระเจ้า   ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงฆ่าพระองค์เสีย   พระเยซูตรัสว่าพระองค์ทรงเป็นเหมือนผู้เลี้ยงแกะซึ่งรักฝูงแกะของเขามากจนยอมตายเพื่อแกะเหล่านั้น เพื่อจะช่วยแกะทั้งหลายให้รอดพ้นจากโจรหรือสัตว์ป่าที่มีแผนจะฆ่าแกะเหล่านั้นเสีย

ยอห์น 14:6   พระเยซูตรัสกับเขาว่า  เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากมาทางเรา

พระเยซูทรงเป็นทางเดียวเท่านั้นที่จะนำไปถึงพระเจ้าและชีวิตนิรันดร์ได้   พระเยซูทรงเป็นผู้นั้นที่เสด็จมาบอกเราทั้งหลายให้ทราบทุกสิ่งที่พระเจ้าปรารถนาจะตรัสแก่เรา และทุกสิ่งที่พระเยซูตรัสก็เป็นความจริง   พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่ไม่สามารถจะตรัสคำโกหกได้  พระเยซูทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของทุกคนที่เชื่อ  พระองค์ทรงเป็นผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถจะช่วยเราให้รอดจากความบาป ความตาย และการถูกแยกจากพระเจ้าตลอดไปเป็นนิตย์ในบึงไฟนั้น  มีพระเจ้าเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นที่ทรงใช้พระผู้ช่วยให้รอดองค์เดียวให้เสด็จมาเพื่อมนุษย์ทั้งโลก คือเพื่อฉันและเพื่อคุณด้วย

พระเยซูทรงชุบลาซารัสขึ้นมาจากความตาย

มีคนจำนวนน้อยมากที่อยากจะพูดคุยเกี่ยวกับความตาย  เราใช้เงินด้วยความพยายามที่จะหายป่วยและรักษาสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ  เราพยายามที่จะให้ดูเป็นหนุ่มสาวและรักษาความเป็นหนุ่มสาวไว้ให้นานที่สุด และพยายามหลีกเลี่ยงอะไรก็ตามที่ทำให้เราแก่เร็ว   พระเยซูทรงสนทนาเกี่ยวกับความตาย  และสิ่งที่พระองค์ตรัสสามารถจะเปลี่ยนแปลงความคิดของเราเกี่ยวกับชีวิตและความตายได้ตลอดไป

พระเยซูทรงมีสหายที่ดีมากคนหนึ่งอาศัยอยู่ใกล้ๆ กับกรุงเยรูซาเล็ม  สหายผู้นี้มีชื่อว่า  ลาซารัส  อยู่มาวันหนึ่ง
พระเยซูได้รับข่าวว่าลาซารัสป่วยหนักและใกล้จะตายอยู่แล้ว  ขณะนั้นพระเยซูกำลังรักษาคนเป็นอันมากให้หายโรค  ผู้ส่งข่าวแน่ใจว่าพระเยซูจะเสด็จมารักษาสหายที่ดีของพระองค์ทันที   แต่พระเยซูทรงอยู่ไกลจากที่ที่ลาซารัสอาศัยอยู่มาก   พระเยซูทรงทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับลาซารัสเพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าและไม่มีสิ่งใดที่พระองค์ไม่ทรงทราบเลย  พระเยซูทรงทราบว่าลาซารัสจะต้องตายอย่างแน่นอน 
พระเยซูทรงมีฤทธานุภาพทั้งสิ้นซึ่งพร้อมที่พระองค์จะทรงใช้ได้อยู่แล้ว   พระองค์สามารถจะรักษาลาซารัสได้โดยไม่ต้องเสด็จไปยังที่ที่ลาซารัสอยู่เลยด้วยซ้ำ   แต่แทนที่พระองค์จะทรงกระทำเช่นนั้นพระองค์กลับคอยอีก 2 วัน  เพราะพระองค์ทรงทราบว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นโอกาสอีกครั้งหนึ่งที่พระองค์จะสำแดงฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ในฐานะที่ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า 

ดูเหมือนว่าพระเยซูไม่ได้รักลาซารัสและพี่สาวของเขาทั้ง 2 คน คือมา  รีย์และมารธา แต่นั่นไม่เป็นความจริงเลย  พระองค์ทรงรักและเป็นห่วงพวกเขามาก แต่พระองค์ทรงมีเหตุผลที่ดีที่จะปล่อยให้ลาซารัสถึงแก่ความตาย  พระเยซูทรงรักมนุษย์ทุกคนอย่างแท้จริง  และทรงปรารถนาให้เราทุกคน  ไว้วางใจในพระองค์ให้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเรา   พระเยซูทรงอาศัยความตายของลาซารัสเพื่อจะสำแดงฤทธานุภาพของพระองค์ในการประทานชีวิตแก่ผู้ที่เชื่อนั่นเอง

ยนห์น 11:25   พระเยซูตรัสกับเธอว่า “เราเป็นเหตุให้คนทั้งปวงเป็นขึ้นและมีชีวิต ผู้ที่เชื่อในเรานั้น ถึงแม้ว่าเขาตายแล้วก็ยังจะมีชีวิตอีก”

พระเยซูกำลังตรัสกับมารธาพี่สาวของลาซารัส  เพราะพระองค์ทรงปรารถนาที่จะให้เธอได้เข้าใจว่าพระองค์ทรงเป็นผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถจะประทานชีวิตแก่คนที่ตายแล้วได้  ซาตานไม่สามารถจะให้ชีวิตแก่คนที่ตายแล้วได้   มีเพียง
พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถจะประทานชีวิตได้เพราะพระองค์ทรงเป็นพระผู้สร้างที่ทรงฤทธานุภาพสูงสุดผู้ได้ทรงประทานชีวิตแก่มนุษย์ทุกคน

พระเยซูทรงบอกแก่มารธาว่าทุกคนที่เชื่อพระองค์ให้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเขาก็ยังต้องตายฝ่ายร่างกายเช่นกัน แต่พวกเขาจะไม่ถูกแยกจาก พระเจ้าและไม่ต้องถูกลงโทษสำหรับความบาปทั้งหลายของเขา   พวกเขาเพียงแต่ออกจากโลกนี้ไปอยู่กับพระเจ้าในสวรรค์เท่านั้น

พระเยซูเสด็จไปยังอุโมงค์ฝังศพของลาซารัสและทรงกันแสงที่อุโมงค์ฝังศพนั้น   พระองค์ทรงโศกเศร้าเนื่องจากผลอันน่ากลัวของความบาป   ผลของความบาป  คือการเจ็บป่วยและความตาย   นี่เป็นสาเหตุที่พระองค์ได้เสด็จเข้ามาในโลกเพื่อจะช่วยนำพามนุษย์ให้รอดพ้นจากความตายและประทานชีวิตนิรันดร์แก่เขา

 ยอห์น 11:41-44    พวกเขาจึงเอาศิลาออกเสียจากที่ซึ่งผู้ตายวางอยู่นั้น พระเยซูทรงแหงนพระพักตร์ขึ้น ... เปล่งพระสุรเสียงตรัสว่า “ลาซารัสเอ๋ย จงออกมาเถิด”   ผู้ตายนั้นก็ออกมา มีผ้าพันศพพันมือและเท้า และที่หน้าก็มีผ้าพันอยู่ด้วย  พระเยซูตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “จงแก้แล้วปล่อยเขาไปเถิด”

พระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นพระเจ้าพระบุตรได้ตรัสออกมาและด้วยคำตรัสของพระองค์นั่นเอง ลาซารัสก็ฟื้นขึ้นจากความตาย  พระเยซูคริสต์ทรงเป็น   พระเจ้า  พระองค์ทรงมีฤทธานุภาพทั้งสิ้น  ไม่เคยปรากฏว่ามีมนุษย์คนใดเหมือนกับพระองค์เลย   พระเจ้าได้ทรงเนรมิตสร้างสิ่งสารพัดทุกสิ่งเมื่อแรกเริ่มโดยการตรัสเท่านั้น   ดังนั้นจึงไม่น่าประหลาดใจที่พระเยซูสามารถจะนำชีวิตกลับมาสู่ลาซารัสโดยการตรัสเท่านั้น 

คำถามบทที่ 20

1. ทำไมพระเยซูจึงตรัสว่าพระองค์ทรงเป็นประตูของแกะ

ก) พระเยซูทรงชอบแกะ

ข) พระองค์ทรงอยากอยู่ใกล้ๆกับแกะ

ค) พระองค์ทรงเป็นหนทางเดียวแห่งชีวิตนิรันดร์

2. พระเยซูตรัสว่าจะทรงทำอะไรให้แกะของพระองค์

ก) ทรงตายเพื่อพวกเขา

ข) ทรงให้อาหารพวกเขา  

ค) ทรงปกป้องพวกเขา

3. มีทางอื่นที่จะไปถึงพระเจ้านอกเหนือจากทางพระเยซู
    หรือไม่

ก) มี

ข) ไม่มี

4. ทำไมพระเยซุจึงทรงทำให้ลาซารัสฟื้นคืนชีพ

ก) พระองค์ทรงรักเขา

ข) เพื่อทรงแสดงฤทธิ์อำนาจในการประทานชีวิตแก่
     คนที่ตายที่เชื่อในพระองค์

ค) ลาซารัสเป็นคนดีและพึ่งพาตัวเอง