ถ้าหากนักศึกษาคนใดๆอยากได้รับใบประกาศเณียบัตรจากสหรัฐฯ เขาต้องส่งคำตอบมาถึงเราและถ้าผ่านเราก็จะส่งใบประกาศเณียบัตรไปให้เขา ขอส่งคำตอบมายังที่: biblestudythailand@gmail.com หรือ Facebook: www.facebook.com/ThaiBibleStudy หรือ Line ID: natwill78

เรียนพระคัมภีร์จากยุคสร้างโลกถึงชีวิตพระเยซูคริสต์

บทที่ 14 ยุคผู้วินิจฉัยและกษัตริย์


หลังจากที่โยชูวาตายไปไม่นาน ชนชาติอิสราเอลก็ลืมพระเจ้า พวกเขาได้หันไปประพฤติตามวิถีทางของประชาชาติทั้งหลายที่ไม่รู้จักพระเจ้าเที่ยงแท้ผู้ทรงพระชนม์อยู่   ในไม่ช้าพวกเขาก็สร้างรูปเคารพและนมัสการรูปเคารพเหล่านั้นแทนพระเจ้า  พระเจ้าทรงปรารถนาที่จะขับไล่ผู้ที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินคานาอันให้ออกไปเสียจากแผ่นดินที่ทรงสัญญาไว้ เพื่อจะประทานแผ่นดินนั้นแก่ชนชาติอิสราเอล  อย่างไรก็ตามพวกเขาได้ปฏิเสธที่จะเชื่อและเชื่อฟังพระเจ้า  พระองค์จึงทรงปล่อยให้ชาวคานาอันบางส่วนอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นต่อไป

  ชาวอิสราเอลได้ตั้งรกรากท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านี้ แต่แทนที่เขาทั้งหลายจะไว้วางใจพระเจ้าพวกเขากลับรับเอาธรรมเนียมปฏิบัติอันชั่วร้ายของชาวคานาอันทั้งหลายมายึดถือเป็นของตนเอง   ชาวคานาอันนมัสการพระเทียมเท็จ อันได้แก่พระบาอัลและพระอัชทาโรท  พวกเขาคิดว่าพระเหล่านี้เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ แต่ไม่ได้ตระหนักว่าซาตานกำลังล่อลวงพวกเขาให้นมัสการตัวซาตานเอง  เมื่อผู้ใดผู้หนึ่งไม่ได้นมัสการพระเจ้าเที่ยงแท้ผู้ทรงพระชนม์อยู่ ที่จริงแล้วเขาก็นมัสการซาตานนั่นเอง  ซาตานเกลียดชังพระเจ้าและไม่ต้องการที่จะให้ใครนมัสการพระองค์

พระเจ้าทรงลงโทษชนชาติอิสราเอลเพราะพวกเขาได้หลงลืมพระองค์และนมัสการรูปเคารพ พระเจ้าทรงปล่อยให้ประชาชาติทั้งหลายที่อาศัยอยู่รอบๆ รบชนะพวกอิสราเอลและบังคับพวกเขาเป็นทาส พระเจ้าเคยเตือนพวกเขาไว้แล้วว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น แต่พวกเขาไม่ยอมฟังพระองค์  เมื่อใดก็ตามที่ชนชาติอิสราเอลกลับมาหาพระเจ้า  พระเจ้าก็จะเลือกชายผู้หนึ่งมานำพวกเขาให้หลุดพ้นจากอำนาจของศัตรู   ผู้ที่ได้รับการเลือกสรรจากพระเจ้านี้เรียกว่า ผู้วินิจฉัย ดังนั้นช่วงเวลาในยุคนี้จึงเรียกว่า ยุคผู้วินิจฉัย  เมื่อชนชาติอิสราเอลทั้งหลายหลงลืมพระเจ้าและหันไปบูชารูปเคารพ   พระเจ้าก็จะปล่อยให้พวกเขาต้องพ่ายแพ้ต่อศัตรู และทุกครั้งที่พวกเขากลับใจมาหาพระเจ้า พระเจ้าก็จะให้มีผู้วินิจฉัยคนใหม่เกิดขึ้น  เพื่อนำพวกเขาให้รอดพ้นและปกครองเหนือพวกเขา  หลังจากที่ผู้วินิจฉัยคนนั้นตายไปแล้วชนชาติอิสราเอลก็กลับไปบูชารูปเคารพอีกและวัฏจักรเดียวกันนี้ได้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกเป็นเวลาถึง 350 ปีเลยทีเดียว

ชนชาติอิสราเอลเป็นชนชาติที่ได้เปรียบที่สุดในบรรดาชนชาติทั้งหลายเพราะผู้ปกครองและกษัตริย์ของพวกเขา คือพระเจ้านั่นเอง  แต่หลังจากที่ยุคผู้วินิจฉัยได้ผ่านพ้นไปแล้วพวกอิสราเอลก็ปฏิเสธพระเจ้าและทูลขอที่จะมีกษัตริย์เหมือนกับประเทศทั้งหลายที่อาศัยอยู่โดยรอบ   มีกษัตริย์หลายองค์ที่ได้ครอบครองเหนือชนชาติอิสราเอลเป็นระยะเวลาถึง 450 ปี   ในบรรดากษัตริย์เหล่านี้มีเพียงไม่กี่พระองค์เท่านั้นที่เชื่อและไว้วางใจพระเจ้า 

ดาวิดทรงเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศอิสราเอล   พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่แตกต่างจากกษัตริย์องค์อื่นๆ ที่ได้ครอบครองเหนือชนชาติอิสราเอล เพราะกษัตริย์
ดาวิดเชื่อในพระเจ้าอย่างแท้จริงและปรารถนาที่จะเชื่อฟังพระองค์ในทุกเรื่อง   กษัตริย์ดาวิดก็เหมือนกับเราทั้งหลายทุกคนที่เกิดมาเป็นคนบาปและถูกแยกจากพระเจ้า  กษัตริย์ดาวิดทรงทราบว่าพระองค์เองเป็นคนบาปและทรงทราบว่าค่าจ้างของความบาป คือ ความตาย  พระองค์ทรงทราบว่าความหวังเพียงอย่างเดียวของพระองค์ ก็คือการยอมรับพระเมตตาของพระเจ้าและการอภัยโทษจากพระองค์   กษัตริย์ดาวิดทรงถวายเครื่องบูชาด้วยเลือดสำหรับความบาปทั้งหลายของตนเองและพระเจ้าก็ทรงยอมรับดาวิดเช่นเดียวกับที่ยอมรับอาเบล โนอาห์ อับราฮัม โมเสส และโยชูวา  นอกจากนี้ พระเจ้ายังทรงสัญญากับดาวิดว่าพระผู้ช่วยให้รอดที่จะเสด็จมานั้นจะเป็นเชื้อสายคนหนึ่งของกษัตริย์ดาวิด

กษัตริย์ดาวิดยังเป็นผู้เผยพระวจนะคนหนึ่งของ
พระเจ้าด้วย พระเจ้าทรงเลือกกษัตริย์ดาวิดให้เขียนพระธรรมสดุดีหลายบทในพระคัมภีร์  กษัตริย์ดาวิดเป็นคนเลี้ยงแกะก่อนที่พระองค์จะทรงขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ของประเทศอิสราเอล  พระธรรมสดุดีบางบทก็เกิดขึ้นโดยอาศัยจินตนาการที่มาจากความรู้เรื่องการเลี้ยงแกะของกษัตริย์ดาวิดนั่นเอง  พระเจ้าทรงใช้จินตนาการในเรื่องนี้เพื่อจะอธิบายแก่เราว่าสภาพของเราทั้งหลายในฐานะที่เป็นคนบาปก็เหมือนกับแกะที่หลงหาย   เราจำเป็นที่จะต้องมีผู้เลี้ยงแกะที่มีความเมตตากรุณา แข็งแกร่งและมีปัญญาเพื่อจะป้องกันเราไม่ให้หลงหายและนำเราให้เดินในเส้นทางที่ถูกต้อง  พระเจ้าทรงเป็นผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถจะกระทำสิ่งเหล่านี้เพื่อเราทั้งหลายได้

หลังจากที่กษัตริย์ดาวิดได้สิ้นพระชนม์แล้วซาโลมอนโอรสของกษัตริย์ดาวิดก็ขึ้นครองราชย์สมบัติสืบทอดต่อไป   ความมั่งคั่งของกษัตริย์ซาโลมอนนั้นเกินกว่าที่ใคร ๆ จะคาดหวังได้  กษัตริย์ซาโลมอนได้สร้างพระวิหารที่สวยงามสำหรับเป็นที่ประทับของพระเจ้า  แต่หลังจากที่กษัตริย์
ซาโลมอนสิ้นพระชนม์แล้วชนชาติอิสราเอลก็เกิดการโต้แย้งกันว่าใครสมควรจะได้เป็นกษัตริย์องค์ต่อไป  และในที่สุดพวกเขาก็แยกออกเป็น 2 อาณาจักร  ชนเผ่า 10 ตระกูลที่อาศัยอยู่ทางเหนือ เรียกว่า อิสราเอล  ส่วนอีก 2 ตระกูลที่อยู่ทางใต้นั้น เรียกว่า  ยูดาห์  

พระเจ้าทรงรักมนุษย์ทุกคนจากทุกประเทศและทุกวัฒนธรรม  พระองค์ทรงปรารถนาให้มนุษย์ทุกคนได้รับการช่วยให้หลุดพ้นจากอำนาจของซาตาน ความบาปและความตาย   ดังนั้นตั้งแต่แรกเริ่มมาแล้วที่พระเจ้าได้ตรัสผ่านบรรดา“ผู้ส่งข่าว”ของพระองค์เพื่อจะสอนให้มนุษย์รู้จักทางทั้งหลายของพระองค์และเพื่อจะเตือนพวกเขาให้ทราบถึงการพิพากษาของพระองค์ซึ่งเป็นผลจากความบาปของเขานั่นเอง  “ผู้ส่งข่าว”ของพระเจ้าเรียกว่า ผู้เผยพระวจนะ  ทั้ง   อิสยาห์ เยเรมีย์
เอเสเคียลและดาเนียลต่างก็เป็น“ผู้ส่งข่าว” ของพระเจ้าที่รู้จักกันโดยทั่วไป   คุณจะพบว่าชื่อต่าง ๆ เหล่านี้ และชื่อของผู้เผยพระวจนะคนอื่นๆ ได้ถูกนำมาใช้เป็นชื่อพระธรรมใน
พระคัมภีร์เดิมซึ่งผู้เผยพระวจนะเหล่านี้ได้เขียนขึ้น

บรรดาผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าได้ประกาศให้ประชาชนกลับใจใหม่และไว้วางใจในพระเจ้าแต่เพียงพระองค์เดียว   การกลับใจใหม่ หมายถึงการมีจิตใจที่เปลี่ยนแปลงใหม่  ซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและเป้าหมายในชีวิต   การที่กลับใจใหม่นั้น  คือการเห็นด้วยกับพระเจ้าและการเกลียดชังความบาปของเราเอง  ชาวอิสราเอลจำนวนมากนมัสการพระเจ้าในพระวิหารที่กษัตริย์ซาโลมอนได้ทรงสร้างขึ้นและยังนมัสการรูปเคารพด้วย   บรรดาผู้เผยพระวจนะจึงบอกให้ประชาชนเลือกว่าพวกเขาจะนมัสการผู้ใด  พระเจ้าหรือรูปเคารพ   ผู้เผยพระวจนะเหล่านี้ได้บอกเขาทั้งหลายว่าพวกเขาไม่สามารถจะนมัสการพระเจ้าได้อย่างแท้จริงถ้าพวกเขายังนมัสการสิ่งอื่นด้วย

หลายร้อยปีก่อนที่พระผู้ช่วยให้รอดจะเสด็จมาพระเจ้าได้ทรงพยากรณ์หลายสิ่งเกี่ยวกับพระผู้ช่วยให้รอดโดยผ่านทางบรรดาผู้เผยพระวจนะเหล่านี้   คำพยากรณ์ทั้งหลายได้ถูกบันทึกไว้ในพระคัมภีร์ด้วย คำพยากรณ์เกี่ยวกับพระผู้ช่วยให้รอดมีจำนวนมากกว่า 300 คำพยากรณ์เสียอีก   รายการข้างล่าง 20 รายการนี้ เป็นคำพยากรณ์ที่มีชื่อเสียง  พระเจ้าได้ทรงประทานคำพยากรณ์เหล่านี้เพื่อว่าจะไม่มีใครพลาดที่จะพบพระองค์เมื่อพระองค์เสด็จมาแล้ว   พระเจ้าทรงปรารถนาที่จะให้พวกเขาทราบว่าพระผู้ช่วยให้รอดจะเป็นผู้ใด และพระองค์จะเสด็จมาเมื่อไร  คำพยากรณ์เหล่านี้ทั้งหมดได้ถูกประทานให้แก่มนุษย์เมื่อ 400 – 1000 ปี ก่อนที่ “พระผู้ช่วยให้รอด” จะกำเนิดมาเสียอีก  ถ้าจะเปรียบเทียบในเรื่องนี้ก็ขอให้ท่านลองจินตนาการถึงการทำนายเกี่ยวกับผู้ใดผู้หนึ่งที่จะมีชีวิตอยู่นี้ในอีก 400  700  หรือ 1,000 ปีข้างหน้าโดยที่คำทำนายเหล่านี้จะรวมไปถึงเมืองที่คนๆ นั้นจะเกิดมา มารดา วงศ์ตระกูล เหตุการณ์ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของชีวิตบุคคลผู้นี้ รวมทั้งรายละเอียดอย่างเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับความตายและการฝังศพของเขาด้วย  และคำทำนายทุกข้อจะต้องถูกต้องถึง 100%  นี่เป็นเรื่องที่จะทำได้ง่ายหรือ? ก็คงไม่ง่ายเลย

  1. เป็นเชื้อสายของกษัตริย์ดาวิด - อิสยาห์ 9:6-7
  2. ประสูติจากหญิงพรหมจารีย์ - อิสยาห์ 7:14
  3. ประสูติในเมืองเบธเลเฮม - มีคาห์ 5:2
  4. ถูกเรียกว่าเป็นความสว่างแก่บรรดาประชาชาติ -
           อิสยาห์ 42:6
  5. ถูกเรียกให้กลับจากประเทศอียิปต์ - โฮเชยา 11:1
  6. ทรงขี่ลูกลา - เศคาริยาห์ 9:9
  7. ถูกเพื่อนคนหนึ่งทรยศ - สดุดี 41:9
  8. ถูกขายด้วยเหรียญเงิน 30 เหรียญ - เศคาริยาห์  11:12,13
  9. ถูกกล่าวหาโดยพยานเท็จ - สดุดี 27:12
  10. ถูกตีและถูกถ่มน้ำลาย - อิสยาห์ 50:6
  11. ไม่ตอบโต้ต่อข้อกล่าวหา - อิสยาห์ 53:7
  12. เป็นที่เกลียดชังอย่างไร้เหตุผล - สดุดี 69:4
  13. ถูกคนยิว(ชาวอิสราเอล)ปฏิเสธ - อิสยาห์ 53:3
  14. ทั้งมือและเท้าถูกแทงทะลุ - สดุดี 22:16
  15. เสื้อผ้าถูกนำไปใช้พนัน - สดุดี 22:18
  16. สิ้นพระชนม์พร้อมกับคนชั่ว - อิสยาห์ 53:12
  17. ถูกเยาะเย้ยและถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม - สดุดี 22:6-8
  18. เสียงร้องคร่ำครวญเพราะการแยกจากกัน - สดุดี 22:1
  19. ถูกฝังไว้ท่ามกลางพวกเศรษฐี - อิสยาห์ 53:9
  20. เสด็จกลับสู่สวรรค์ - สดุดี 68:18

ในบทเรียนต่อไปเราจะได้เห็นว่าพระเจ้าผู้ทรง
ฤทธานุภาพจะทรงกระทำให้สำเร็จตามคำทำนายเหล่านี้ในพระชนม์ชีพของพระผู้ช่วยให้รอดได้อย่างไร  คำพยากรณ์เหล่านี้ก็สำเร็จตามที่ได้บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ส่วนต่อไปที่เรียกว่า พระคัมภีร์ใหม่

ชาวอิสราเอลส่วนใหญ่ปฏิเสธที่จะเชื่อฟังพระวจนะของพระเจ้า   เขาทั้งหลายได้ข่มเหงและฆ่า“ผู้ส่งข่าว”ของ
พระเจ้าไปหลายคน   พวกเขายังคงบูชารูปเคารพและประพฤติตามวิถีทางของบรรดาประชาชาติทั้งหลายที่อยู่ล้อมรอบ   นอกเหนือจากผู้เผยพระวจนะที่ส่งมาจากพระเจ้าแล้วซาตานเองก็ได้ส่งผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จมาพูดเรื่องโกหกแก่ชนชาติอิสราเอลด้วย   ซาตานต้องการที่จะทำให้พวกเขารู้สึกสับสนว่าเรื่องไหนเป็นความจริงและเรื่องไหนเป็นความเท็จกันแน่ ซาตานเป็นผู้โกหกและผู้ล่อลวง  บรรดาผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จได้บอกแก่ประชาชนว่า  ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดีและ
พระเจ้าจะไม่ลงโทษพวกเขาหรอก  ซาตานยังคงเป็นเช่นนั้นในปัจจุบัน ซาตานได้ใช้“ผู้ส่งข่าว”ของมันมาบอกว่า
พระวจนะของพระเจ้าไม่เป็นความจริง หรือบอกว่าพระเจ้าจะไม่ลงโทษต่อความบาป  ผู้รับใช้ของซาตานอาจจะมาบอกแก่คุณว่าพระเจ้าจะไม่ส่งผู้หนึ่งผู้ใดลงไปสู่บึงไฟหรอก

พระเจ้าทรงอดกลั้นและไม่ทรงลงโทษคนบาปในทันทีพระองค์ได้ทรงเตือนผู้คนในสมัยของโนอาห์เป็นเวลานานถึง 120 ปี ก่อนที่น้ำจะมาท่วมทำลายพวกเขาเสีย  พระเจ้าได้ใช้“ผู้ส่งข่าว”ของพระองค์มายังชนชาติอิสราเอลเป็นเวลาหลายร้อยปี   คนเหล่านี้ได้มาเตือนพวกเขาถึงการพิพากษาของพระเจ้าที่จะมาถึงถ้าพวกเขาไม่กลับใจเสียใหม่  ชนชาติอิสราเอลก็ยังไม่ยอมเชื่อพระเจ้า พระองค์จึงทรงปล่อยให้ศัตรูเข้ามาต่อสู้และเอาชนะพวกเขาเพราะว่าชนชาติอิสราเอลไม่ยอมเชื่อและกลับใจเสียใหม่

กองทัพของชนชาติอัสซีเรียสามารถรบเอาชนะชนเผ่า 10 ตระกูลของชนชาติอิสราเอลที่อยู่ทางตอนเหนือและนำพวกเขากลับไปเป็นเชลย  แล้วพวกอัสซีเรียก็นำประชาชนจากประเทศอื่นๆ เข้ามาอาศัยในดินแดนตอนเหนือของประเทศอิสราเอล  คนเหล่านี้ไม่รู้จักพระเจ้าเที่ยงแท้ผู้ทรงพระชนม์อยู่  ในที่สุดชาวอิสราเอลจำนวนมากได้แต่งงานกับคนเหล่านี้และลูกหลานของพวกเขาก็เรียกว่า ชาวสะมาเรีย   

ส่วนชนเผ่า 2 ตระกูลที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ ซึ่งเรียกว่า ยูดาห์ นั้นก็ปฏิเสธที่จะกลับใจเสียใหม่เช่นกัน  พระเจ้าจึงทรงปล่อยให้ชนชาติบาบิโลนเข้ามากวาดต้อนพวกเขากลับไปยังประเทศของคนเหล่านี้  ชนชาติบาบิโลนได้ทำลายกำแพงหินของกรุงเยรูซาเล็มและได้เผาพระวิหารของพระเจ้าซึ่งกษัตริย์

ซาโลมอนได้ทรงสร้างไว้  พระเจ้าทรงกระทำอย่างที่พระองค์ได้ทรงเตือนเขาทั้งหลายแล้วว่าพระองค์ทรงจะกระทำถ้าพวกเขาไม่ยอมกลับใจเสียใหม่

หลังจาก 70 ปีผ่านไปประชาชนชาวยูดาห์ซึ่งอยู่ในกรุงบาบิโลนได้กลับใจเสียใหม่และทูลขอให้พระเจ้าทรงนำพวกเขากลับไปยังแผ่นดินของเขา  พระเจ้าทรงสดับฟังคำร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์และได้ทรงนำคนจำนวนมากกลับไปยังกรุงเยรูซาเล็ม  พวกเขาได้สร้างเมืองและกำแพงล้อมรอบเมืองขึ้นใหม่ นอกจากนี้พวกเขายังได้สร้างพระวิหารขึ้นมาใหม่อีกด้วย  ชาวอิสราเอลที่กลับไปยังแผ่นดินของตนเองก็ได้รับชื่ออีกชื่อหนึ่งด้วย  พวกเขาถูกเรียกว่า คนยิว ซึ่งเป็นชื่อที่ยังคงใช้เรียกเชื้อสายของคนเหล่านี้ในปัจจุบัน  คนยิวยังคงนมัสการพระเจ้าถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะไม่ได้กระทำจากจิตใจของเขาก็ตาม  เขาทั้งหลายได้ไปยังพระวิหารพร้อมด้วยเครื่องบูชา แต่พวกเขาไม่ได้เชื่ออย่างแท้จริงว่าตนเองเป็นคนบาปที่ต้องการพระเมตตาจากพระเจ้า

เชื้อสายของพวกเขาไม่ได้เชื่อฟังพระเจ้า  หลังจากนั้นหลายร้อยปีพระเจ้าได้ทรงพิพากษาพวกยิวอีกโดยการปล่อยให้พวกกรีกเข้ามารบชนะและครอบครองประเทศของเขา และยังสอนให้พวกเขาพูดภาษากรีกอีกด้วย  หลายปีต่อมากองทัพโรมันได้เอาชนะพวกกรีกและได้เข้าครอบครองกรุงเยรูซาเล็มและแผ่นดินอิสราเอลแม้ว่าชาวยิวจำนวนมากไม่เชื่อพระเจ้าแต่ก็ยังมีคนยิวกลุ่มน้อยๆ อยู่จำนวนหนึ่งเสมอที่เชื่อพระเจ้าและเชื่อพระวจนะของพระองค์ที่ผ่านมาทาง“ผู้ส่งข่าว”ทั้งหลายของพระองค์  คนเหล่านี้ได้เฝ้าคอยพระผู้ช่วยให้รอดที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ว่าจะเสด็จมานั้น

คำถามบทที่ 14

1. เมื่อโยชูวาตายไปแล้วคนอิสราเอลทำอย่างไร

ก) พวกเขาหลงลืมพระเจ้า

ข) พวกเขากลับไปอียิปต์

ค) อาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดาร

ง) เชื่อฟังพระเจ้า

2. ใครหลอกมนุษย์ให้บูชารูปเคารพต่างๆ 

ก) ทูตสวรรค์ 

ข) พระเจ้า

ค) ธรรมชาติ

ง) ซาตาน

3. พระเจ้าทรงลงโทษชาวอิสราเอลที่บูชารูปเคารพอย่างไร

ก) ทรงทำให้พวกเขาเป็นทาสของชนชาติอื่นๆ

ข) ทรงไม่ยอมให้พวกเขาเข้าไปในแผ่นดินที่พระองค์ ทรงสัญญา

ค) ทรงทำให้เกิดภัยพิบัติที่ฆ่าพวกเขา

4. พระเจ้าทรงทำอย่างไรเมื่อคนอิสราเอลสำนึกผิดและทูล
    ขอให้พระองค์ทรงช่วยพวกเขาให้รอดจากศัตรู

ก) พระเจ้าทรงทำให้พวกเขาทุกข์ทรมานจากการเป็นทาส

ข) พระเจ้าทรงเลือกชายคนหนึ่งให้มาช่วยพวกเขาจากศัตรู

ค) พระเจ้าทรงปฏิเสธพวกยิว

5. เกิดอะไรขึ้นหลังจากกษัตริย์โซโลมอนสิ้นพระชนม์

ก) พวกเราได้ถูกเอาชนะและต้องไปเป็นทาส

ข) พวกเขาถูกบังคับให้กลับอียิปต์

ค) อิสราเอลถูกแยกออกเป็นสอง 2 อาณาจักร

6. พระเจ้าทรงยินยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับชนสิบเผ่าทางฝ่าย
    เหนือ

ก) ทรงยินยอมให้กองทัพอัสซีเรียรบชนะและนำพวก
    เขากลับไปเป็นเชลย

ข) ชาวอียิปต์กลับมาแล้วพาพวกเขากลับไปยังอียิปต์

ค) พวกเขาทั้งหมดถูกฆ่าตาย

7. พระเจ้าทรงยินยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับชนสองเผ่าทางฝ่ายใต้

ก) ทรงยินยอมให้ชนชาติบาบิโลนรบชนะและนำพวก
    เขาไปเป็นทาส

ข) ชาวอียิปต์กลับมาแล้วพาพวกเขากลับไปยังอียิปต์

ค) พวกเขาทั้งหมดถูกฆ่าตาย