ถ้าหากนักศึกษาคนใดๆอยากได้รับใบประกาศเณียบัตรจากสหรัฐฯ เขาต้องส่งคำตอบมาถึงเราและถ้าผ่านเราก็จะส่งใบประกาศเณียบัตรไปให้เขา ขอส่งคำตอบมายังที่: biblestudythailand@gmail.com หรือ Facebook: www.facebook.com/ThaiBibleStudy หรือ Line ID: natwill78

เรียนพระคัมภีร์จากยุคสร้างโลกถึงชีวิตพระเยซูคริสต์

บทที่ 24 – ความหมายสำหรับการสิ้นพระชนม์ของ
พระเยซูคริสต์จากพระคัมภีร์เดิม


พระคัมภีร์เปรียบเหมือนหลักกิโลอันหนึ่งที่ปักอยู่ริมถนนเพื่อบอกทิศทางให้ทราบว่าถนนสายนั้นจะพาไปสู่ที่ใด  พระเจ้าทรงทราบว่ามนุษย์ทุกคนกำลังหลงหาย  พระองค์จึงทรงทำให้แน่ใจว่าหนทางที่จะกลับไปถึงพระองค์นั้นได้ถูกกำหนดไว้เป็นอย่างดี  พระคัมภีร์เดิมเปรียบเหมือนหลักกิโลของพระเจ้าเพราะเหตุการณ์หลายอย่างในประวัติศาสตร์ที่ได้ถูกบันทึกไว้ในพระคัมภีร์เดิมได้เล็งถึงการประสูติ การสิ้นพระชนม์ การถูกฝังไว้ และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์เจ้า  ในบทเรียนสุดท้ายนี้เราจะมาทบทวนเหตุการณ์ในอดีตเหล่านี้และมาดูกันว่าเหตุการณ์เหล่านี้เล็งถึงองค์พระเยซูคริสต์และการสิ้นพระชนม์ของพระองค์บนไม้กางเขนเพื่อเราได้อย่างไร

 

คุณยังจำสิ่งที่อาดัมกับเอวาได้กระทำเมื่อคนทั้งสองทำบาปและรู้ตัวว่าพวกเขากำลังเปลือยกายอยู่ได้ไหม?  พวกเขาได้ทำเครื่องปกปิดร่างกายด้วยใบไม้  พระเจ้าทรงยอมรับเครื่องคลุมกายที่คนทั้งสองได้ทำขึ้นมาเองหรือเปล่า? เปล่าเลย  พระเจ้าทรงปฏิเสธที่จะยอมรับสิ่งที่พวกเขาได้ทำขึ้นเพราะพระเจ้าทรงปรารถนาที่จะสอนคนทั้งสองให้ทราบว่าพวกเขาไม่สามารถจะกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่จะทำให้พวกเขาเป็นที่ยอมรับของพระเจ้าได้

พระเจ้าทรงปรารถนาที่จะให้เราแต่ละคนตระหนักในเรื่องนี้ คือไม่มีสิ่งใดที่เราจะสามารถกระทำเพื่อทำให้เราเป็นที่ยอมรับของ
พระเจ้าได้ การไปโบสถ์ การเลี้ยงดูครอบครัว การทำความดี การบริจาคเงินให้แก่คนยากไร้ขัดสน การดูแลสิ่งแวดล้อม สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งดีที่เราควรทำทั้งสิ้น แต่ไม่มีอะไรในสิ่งเหล่านี้เลยที่จะสามารถทำให้เราได้รับการยอมรับจากพระเจ้าได้  คุณกำลังพยายามที่จะกระทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อทำให้ตัวคุณเองถูกต้องชอบธรรมต่อพระพักตร์
พระเจ้าหรือเปล่า?  ถ้าคุณกำลังทำเช่นนี้อยู่ล่ะก็คุณก็จำเป็นที่จะต้องตระหนักว่าสิ่งที่คุณกำลังกระทำอยู่นี้ก็ไม่ได้รับการยอมรับจากพระเจ้ามากไปกว่าเครื่องคลุมกายที่อาดัมกับเอวาเคยทำขึ้นมาแล้ว  

พระเจ้าทรงปฏิเสธเครื่องคลุมกายที่คนทั้งสองได้ทำขึ้นสำหรับตนเอง พระเจ้าจึงทรงฆ่าสัตว์มาทำเป็นเครื่องคลุมกายสำหรับพวกเขา  ในทำนองเดียวกันพระเจ้าก็ปฏิเสธที่จะยอมรับสิ่งใดๆ ที่เรากระทำเพื่อจะทำให้ตัวของเราเองเป็นที่พอพระทัยพระองค์ แต่เพราะว่าพระองค์ทรงรักเราพระองค์จึงได้ส่งพระเยซูคริสต์ให้มาสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อเรา เพื่อว่าเราจะสามารถเป็นที่ยอมรับของพระองค์ได้  ถ้าคุณเชื่อและไว้วางใจในพระองค์แต่เพียงผู้เดียวก็จะเป็นเหมือนที่
พระเจ้าทรงนำเครื่องคลุมกายที่พระองค์ได้ทรงทำขึ้นไปปกปิดให้แก่อาดัมกับเอวา คือพระองค์จะทรงอภัยโทษความบาปทั้งหลายของคุณและยอมรับว่าคุณถูกต้องชอบธรรมอย่างสมบูรณ์ต่อเบื้องพระพักตร์พระองค์  พระเจ้าทรงยอมรับคุณไม่ใช่เพราะคุณปราศจากบาป แต่เป็นเพราะว่าพระเยซูเจ้าผู้ได้ทรงสิ้นพระชนม์แทนคุณนั้นทรงปราศจากบาปอย่างสิ้นเชิง  ทุกคนที่ไว้วางใจในพระองค์แต่เพียงผู้เดียวก็จะได้รับการยอมรับจากพระเจ้าตลอดไปเป็นนิตย์เพราะพวกเขาได้รับการสวมใส่ด้วยความชอบธรรมของพระเยซูคริสต์แล้ว

 

เรื่องราวต่อไปที่เราจำเป็นจะต้องพิจารณากัน ก็คือเรื่องเกี่ยวกับคาอินและอาแบล  พระเจ้าได้ทรงปฏิเสธคาอินเพราะเขามาหาพระเจ้าตามวิธีของเขาตามความคิดของเขาเอง ซึ่งไม่ใช่วิธีที่พระเจ้าได้ทรงบัญชาไว้  พระเจ้าได้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าเมื่อใดก็ตามที่ผู้ใดผู้หนึ่งจะเข้ามานมัสการพระเจ้าเขาจะต้องนำสัตว์ตัวหนึ่งมาฆ่าและปล่อยให้เลือดของมันไหลออกมา  พระเจ้าได้ตรัสให้กระทำเช่นนี้เพราะพระองค์ทรงทราบว่าวันหนึ่งพระเยซูคริสต์จะทรงสละพระโลหิตของพระองค์เพื่อเป็นค่าชดใช้สำหรับความผิดบาปทั้งหลายของโลก      อาแบลก็เป็นคนบาปด้วย แต่เขาได้รับการยอมรับจากพระเจ้าเพราะเขาไว้วางใจใน
พระเจ้าว่าจะทรงช่วยเขาให้รอดจึงได้นำเครื่องบูชาด้วยเลือดมาถวายตามที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้  ในทำนองเดียวกันพระเจ้าจะทรงยอมรับทุกคนที่เชื่อในพระเยซูและพระโลหิตที่พระองค์ได้ทรงหลั่งออกเพื่อความผิดบาปของมนุษย์ทุกคน

คุณจำเรื่องที่คุณได้อ่านเกี่ยวกับวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์ในสมัยของโนอาห์ก่อนที่น้ำจะท่วมโลกได้ไหม?  ผู้คนปฏิเสธที่จะฟังคำตักเตือนของพระเจ้าที่ส่งผ่านมาทางโนอาห์  พระเจ้าจึงทรงตรัสว่าพระองค์จะทรงทำลายโลกโดยน้ำท่วมครั้งใหญ่  ตอนนั้นพระเจ้าทรงตั้งพระทัยที่จะกำจัดโนอาห์ผู้ซึ่งเป็นเหมือนกับอาแบลที่ทราบว่าตัวเขาเองเป็นคนบาปและได้ไว้วางใจในพระเจ้าว่าจะส่งพระผู้ช่วยให้รอดมาให้ หรือเปล่า? เปล่าเลย  แล้วคุณจำได้ไหมว่าพระเจ้าได้ตรัสสั่งให้โนอาห์สร้างประตูในนาวากี่ประตู  ใช่แล้ว เพียงประตูเดียวเท่านั้น

 ประตูที่จะนำพวกเขาให้สามารถผ่านเข้าไปในนาวาและได้รับการช่วยให้รอดพ้นจากการพิพากษาของพระเจ้าได้มีเพียงประตูเดียวเท่านั้น  บรรดาสัตว์นานาชนิด โนอาห์และครอบครัวของเขาต่างก็เข้าไปทางประตูซึ่งมีอยู่เพียงประตูเดียวก่อนที่น้ำจะมาท่วมโลก แล้วพระเจ้าก็ทรงปิดประตูให้พวกเขาอยู่ภายใน  พวกคนที่อยู่ในนาวาต่างก็ปลอดภัยจากการพิพากษาของ
พระเจ้าที่มีต่อโลกซึ่งเต็มไปด้วยความบาปนั้น

ทุกคนที่อยู่นอกนาวาได้ตายด้วยน้ำท่วมเพราะเขาทั้งหลายปฏิเสธที่จะเชื่อพระเจ้าและเข้าไปในนาวาทางประตูเพียงประตูเดียวนั้น  ประตูที่มีอยู่เพียงประตูเดียวก็เตือนให้เราระลึกถึงพระเยซูเจ้าผู้ทรงเป็นทางเดียวเท่านั้นที่นำไปสู่ชีวิต  นิรันดร์  เมื่อคนหนึ่งคนใดเชื่อว่า
พระเยซูได้สิ้นพระชนม์เพื่อความบาปทั้งหลายของเขาและมอบความไว้วางใจของเขากับพระองค์เพียงผู้เดียวพระเจ้าก็จะทรงอภัยโทษสำหรับความบาปทั้งหลายของเขาและประทานชีวิตนิรันดร์แก่เขา  จงอย่าโง่เขลาเหมือนคนในสมัยของโนอาห์ที่ปฏิเสธไม่ยอมเข้าไปในนาวาเพื่อจะรับการช่วยให้รอด

 

อยู่มาวันหนึ่ง พระเจ้าได้ตรัสสั่งให้อับราฮัมนำอิสอัคบุตรชายคนเดียวของเขาไปถวายเป็นเครื่องเผาบูชา  สถานที่ซึ่งพระเจ้าทรงบอกให้อับราฮัมเดินทางไปนั้นอยู่ใกล้ หรือไม่อย่างนั้นก็คงจะเป็นสถานที่เดียวกับที่ซึ่งพระเยซูคริสต์พระบุตรองค์เดียวของพระเจ้าได้ถูกตรึงกางเขน  อับราฮัมได้เอาฟืนที่ใช้สำหรับเผาเครื่องบูชาไปให้อิสอัคแบกไว้บนหลังและเดินขึ้นเขาไปด้วยกัน  พระเยซูคริสต์เองก็ได้ทรงแบกไม้กางเขนและเดินขึ้นไปบนภูเขาซึ่งเป็นสถานที่ที่พระองค์ถูกตรึงบนกางเขนนั้น  เมื่ออิสอัคถามบิดาของเขาว่าเครื่องบูชาอยู่ที่ไหน อิสอัคก็ตอบว่า “บุตรชายของเราเอ๋ย พระเจ้าจะทรงจัดเตรียมลูกแกะด้วยพระองค์เอง”  พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระเจ้าพระบุตร  พระเจ้าได้ทรงจัดเตรียมพระองค์เองอย่างแท้จริง เหมือนที่ยอห์นได้กล่าวถึงพระเยซูคริสต์ไว้ว่า “พระองค์ทรงเป็นพระเมษโปดกของพระเจ้าผู้ทรงรับความผิดบาปของโลกไปเสีย”  

เหตุการณ์อีกเหตุการณ์หนึ่งที่ได้ถูกบันทึกไว้ในพระคัมภีร์ซึ่งเป็นภาพที่เล็งถึงพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด คือภัยพิบัติประการสุดท้ายที่พระเจ้าทรงบันดาลให้เกิดขึ้นแก่ประเทศอียิปต์ก่อนที่ชนชาติอิสราเอลจะได้รับการปลดปล่อยให้เดินทางออกจากประเทศอียิปต์  ภัยพิบัติประการสุดท้ายนี้จะสังหารบุตรหัวปีของทุกครอบครัว  ชนชาติอิสราเอลก็อาจจะต้องสูญเสียบุตรหัวปีของเขาไปด้วยแต่พระเจ้าทรงจัดเตรียมหนทางสำหรับพวกเขาที่จะรอดพ้นได้

ประการแรกทีเดียว ลูกแกะจะต้องปราศจากตำหนิ  พระเจ้าทรงบัญชาให้ชาวอิสราเอลเลือกลูกแกะตัวหนึ่งซึ่งมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์  ลูกแกะที่สมบูรณ์เหล่านี้เตือนให้เราระลึกถึงพระเยซูคริสต์เจ้า  พระองค์ประสูติโดยปราศจากบาป  พระองค์ทรงดำเนินชีวิตอย่างไม่มีบาป  พระเจ้าสามารถจะยอมรับพระเยซูเป็นค่าชดใช้สำหรับความบาปทั้งหลายของเราได้เพราะพระองค์ทรงปราศจากบาปนั่นเอง

ประการที่สอง ลูกแกะตัวนั้นจะต้องตาย  ชาวอิสราเอลทั้งหลายจะต้องเลี้ยงลูกแกะไว้จนถึงเวลาที่พระเจ้าตรัสสั่งให้พวกเขาฆ่ามันเสีย  ลูกแกะจะต้องตายและเลือดของมันจะต้องไหลออกบุตรหัวปีจึงจะรอดจากความตายได้  ในทำนองเดียวกันก็จำเป็นที่พระเยซูคริสต์เจ้าจะต้องสละพระโลหิตของพระองค์เพื่อเป็นค่าชดใช้สำหรับความบาปทั้งหลายของเรา  ไม่มีหนทางอื่นใดที่เราจะสามารถรอดพ้นจากการพิพากษาของ     พระเจ้าที่มีต่อความบาปของเราได้

 

ประการที่สาม เลือดของลูกแกะจะต้องถูกเอาไปทาด้านบนและด้านข้างของขอบประตู  แม้ว่าชาวอิสราเอลจะฆ่าลูกแกะแล้วเอาอ่างรองเลือดของมันตามที่พระเจ้าได้ทรงบัญชาไว้บุตรหัวปีก็ยังคงต้องตายนอกเสียจากว่าพวกเขาจะเอาเลือดนั้นไปทาด้านบนและด้านข้างของขอบประตู  เรื่องนี้สอนให้เราทราบว่าเพียงแค่รู้ว่าเราเป็นคนบาปและรู้ว่าพระเยซูคริสต์เจ้าได้สิ้นพระชนม์สำหรับความบาปทั้งหลายของเราก็ไม่ได้ช่วยเราให้รอดจากการพิพากษาอันน่ากลัวของพระเจ้าเลย  ชาวอิสราเอลจะต้องทาเลือดลูกแกะตัวนั้นที่ขอบประตูบ้านของเขาเพื่อแสดงให้พระเจ้าเห็นว่าพวกเขาไว้วางใจในเลือดนั้นว่าจะคุ้มครองป้องกันเขาจากทูตสวรรค์แห่งความตายได้  ในทำนองเดียวกันเราจะต้องไว้วางใจในพระเยซูคริสต์เจ้าและการสิ้นพระชนม์ของพระองค์เพื่อเป็นค่าชดใช้สำหรับความบาปของเราต่อพระเจ้าเป็นการส่วนตัว  เราจะต้องเชื่อว่าสิ่งที่
พระเยซูเจ้าได้ทรงกระทำที่ไม้กางเขนนั้นเป็นการกระทำสำหรับเราแต่ละคน  พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์เพื่อฉันเป็นการส่วนตัว และพระเยซูก็ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อคุณเป็นการส่วนตัวด้วยเช่นกัน

ทูตสวรรค์แห่งความตายได้สังหารบุตรหัวปีทุกคนในบ้านที่มีเลือดทาอยู่หรือเปล่า? เปล่าเลย  พระเจ้าตรัสว่าพระองค์จะเสด็จผ่านบ้านทุกหลังที่พระองค์ทอดพระเนตรเห็นเลือดและพระองค์ก็ได้ทรงกระทำเช่นนั้นจริงๆ  ในทำนองเดียวกันคุณเองก็สามารถแน่ใจได้อย่างเต็มที่ว่าถ้าคุณไว้วางใจในพระเยซูคริสต์เจ้าและการสิ้นพระชนม์ของพระองค์สำหรับคุณคุณก็จะไม่ต้องถูกพิพากษาสำหรับความบาปทั้งหลายของคุณเลย  พระโลหิตของพระเยซูได้ชดใช้สำหรับความบาปทั้งสิ้นของคุณแล้ว และคุณสามารถจะแน่ใจได้ว่าพระเจ้าจะไม่เรียกร้องการชดใช้เป็นครั้งสองอีก  ทุกคนที่ไว้วางใจในพระเยซูแต่เพียงผู้เดียวก็มีชีวิตนิรันดร์แล้ว

หลังจากที่พระเจ้าได้ทรงช่วยชนชาติอิสราเอลให้พ้นจากพวกอียิปต์แล้วพระองค์ก็นำเขาทั้งหลายเข้าไปในถิ่นทุรกันดารจนพวกเขาได้มาถึงภูเขาซีนาย และที่ภูเขานี้เองพระเจ้าได้ทรงประทานพระบัญญัติของพระองค์แก่เขาทั้งหลายซึ่งแสดงให้เขาทั้งหลายเห็นว่าพวกเขาเป็นคนบาปที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้และอยู่ภายใต้การพิพากษาให้ถึงแก่ความตาย อย่างไรก็ตามพระเจ้ายังทรงเปี่ยมล้นด้วยความรักและความเมตตากรุณาพระองค์จึงสั่งให้โมเสสสร้างพลับพลาที่ซึ่งพระองค์จะพบกับชนชาติของพระองค์และทรงให้อภัยโทษสำหรับความบาปของเขาทั้งหลาย

มหาปุโรหิตจะต้องเข้าไปยังห้องชั้นในของพลับพลาและประพรมเลือดของลูกแกะตัวหนึ่งบนพระที่นั่งแห่งพระกรุณาคุณปีละครั้ง  ปีแล้วปีเล่าที่สัตว์ได้ถูกฆ่าเป็นเครื่องบูชาและเลือดของมันก็ถูกนำไปประพรมบนที่นั่งแห่งพระกรุณาคุณในพลับพลา แต่เลือดของบรรดาสัตว์ทั้งหลายไม่สามารถจะชดใช้สำหรับความบาปได้เลย  เครื่องบูชาเหล่านี้เป็นเพียงภาพที่เล็งถึงพระเยซูคริสต์เจ้าผู้ซึ่งยังไม่ได้เสด็จมาในเวลานั้นเพื่อจัดเตรียมเครื่องบูชาที่สมบูรณ์สำหรับความบาปเพียงครั้งเดียวโดยการยอมสละพระชนม์ชีพของพระองค์เอง  

พวกยิวซึ่งปฏิเสธที่จะยอมรับว่าพระเยซูทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดที่ได้รับใช้มาจากพระเจ้านั้นช่างโง่เขลาเสียจริงๆ  คนเหล่านั้นที่ไม่เชื่อว่าพระโลหิตของพระองค์ได้ชดใช้สำหรับความบาปทั้งสิ้นจนหมดแล้วก็ช่างโง่เขลาเสียจริงๆ  และผู้คนในปัจจุบันก็โง่เขลาพอๆ กันเมื่อพวกเขาพยายามที่จะช่วยเหลือตัวเองให้รอดโดยสิ่งต่างๆ ที่เขาได้กระทำแทนที่จะแค่เพียงไว้วางใจในสิ่งที่พระเยซูได้ทรงกระทำสำเร็จแล้ว  แล้วคุณล่ะจะไว้วางใจในสิ่งที่คุณทำหรือยอมไว้วางใจในสิ่งที่พระเยซูได้ทรงกระทำเพื่อคุณบนไม้กางเขนแล้ว?  คุณจะเลือกทำอย่างใด?

พระเยซูได้ทรงจ่ายค่าชดใช้สำหรับความบาปทั้งสิ้นของมนุษย์ทุกคนจนหมดแล้ว  ความบาปทั้งหลายของบรรดาผู้ที่อยู่ในสมัยพระคัมภีร์เดิม เช่น อับราฮัม โมเสส กษัตริย์ดาวิด ซึ่งเชื่อในพระผู้ช่วยให้รอดที่จะเสด็จมาก็ได้รับการอภัยโทษอย่างเต็มที่แล้ว เพราะพระเยซูได้ทรงสิ้นพระชนม์บนกางเขนสำหรับคนเหล่านี้เช่นกัน

บรรดาผู้ที่มีชีวิตในสมัยของพระเยซู เช่น มัทธิว เปโตร และยอห์น ซึ่งได้ไว้วางใจในพระองค์ต่างก็ได้รับการอภัยโทษจากพระเจ้าและได้รับการยอมรับจากพระองค์เพราะพระเยซูได้ทรงสิ้นพระชนม์บนกางเขนสำหรับคนเหล่านี้เช่นกัน และตั้งแต่เวลานั้นเป็นต้นมาคนเป็นล้านๆ จากประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้มองย้อนกลับไปดูสิ่งที่พระเยซูคริสต์เจ้าได้ทรงกระทำสำเร็จแล้วเมื่อพระองค์ทรงสิ้นพระชนม์สำหรับเขาทั้งหลาย และพวกเขาก็ได้ไว้วางใจให้พระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเขา แล้วคุณล่ะ?

คุณจะยอมกลับใจเสียใหม่จากความบาปทั้งหลายของคุณไหม?  แล้วมาเห็นด้วยกับพระเจ้าว่าคุณเป็นคนบาปและสมควรจะถูกแยกจากพระองค์ไปอยู่ในบึงไฟตลอดไป  ขอให้เปลี่ยนความคิดของคุณเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังไว้วางใจอยู่เพื่อคุณจะสามารถเป็นที่ยอมรับของพระเจ้าได้ และไว้วางใจในพระเยซูคริสต์อย่างเต็มที่ที่จะให้พระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยนำพาให้รอดพ้นและพระผู้ช่วยให้รอดของคุณ

เพื่อนรักของผม ในวันใดวันหนึ่งข้างหน้า คุณจะได้ยืนเฝ้าต่อหน้าพระพักตร์พระเจ้า เพราะพระองค์ทรงกำหนดวันเวลาที่คุณจะได้ยืนเข้าเฝ้าพระองค์ เพื่อให้คุณได้พูดแก้ต่างเรื่องความคิด คำพูดหรือการกระทำที่ไม่ถูกต้องและบาปเวรกรรมต่าง ๆ ที่คุณทำมาตลอดชั่วชีวิตของคุณไว้แล้ว ไม่มีบาปใดที่เล็ดลอดสายพระเนตรของพระองค์ไปได้ คนที่แช่งด่า เป็นนักดื่ม ทำผิดศีลธรรม ลักขโมย ทำผิดทางเพศ โลภโมโทสัน ไม่ซื่อสัตย์ ทำผิดประเวณี กามวิปริต โป้ปดมดเท็จ คดโกง เย่อหยิ่งถือตัว รวมทั้งคนที่ประพฤติผิดบาปอื่น ๆ “ จะได้รับส่วนของตนในบึงที่เผาไหม้ด้วยไฟและกำมะถัน “ ( วิวรณ์ 21:8 )

ทางที่จะรอดพ้นจากสิ่งที่ทรงกำหนดไว้นี้ มีอยู่เพียงทางเดียว คือพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเป็นทางเดียวที่จะทำให้คุณไปสวรรค์ได้ พระองค์ตรัสว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากมาทางเรา” ( ยอห์น 14:6 ) พระเจ้าจะทรงช่วยคุณให้รอดพ้นจากสิ่งเหล่านี้ ถ้า คุณจะกลับใจสารภาพความผิดบาปและยอมเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ “เพราะว่า ‘ผู้ใดที่จะร้องออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็จะรอด’” ( โรม 10:13 ) การได้รับการบังเกิดใหม่นั้นเกิดขึ้นได้ เพียงแค่คุณยอมรับเอาองค์พระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดสำหรับตัวคุณ ความรู้สึกตื้นตันอบอุ่นใจเท่านั้นไม่พอสำหรับเรื่องนี้ ความเชื่อในพระองค์ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าเมื่อคุณตายคุณจะได้ไปสวรรค์แน่นอน (1 ยอห์น 5:13 ) และคุณจะได้รับความรอดนิรันดร ที่ไม่มีวันสูญสิ้น
(ยอห์น 10:27-28 ) พระเจ้าทรงสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณได้ (2 โครินธ์ 5:17 ) และจะทรงเติมความรู้สึกเหมือนคนไม่มีศาสนาของคุณให้เต็ม ได้โปรดอย่าละเลยคุณค่าของจิตวิญญาณของคุณ พระเจ้าทรงเห็นว่ามันมีค่ายิ่งกว่าอะไรทั้งหมดในโลกนี้ ( มาระโก 8:36 ) ชีวิตที่คุณมีอยู่ในเวลานี้เป็นแค่ห้องที่คุณใช้แต่งตัวเพื่อไปสู่ความเป็นนิรันดร พระเจ้าทรงรักคุณ ( ยอห์น 3:16 ) และทรงปรารถนาให้คุณได้รับความรอด

โปรดติดต่อเราถ้าคุณปรารถนาจะได้รับองค์พระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของคุณ เราสามารถช่วยคุณเรื่องการตัดสินใจครั้งสำคัญยิ่งนี้ในชีวิตของคุณได้ แต่ถ้าคุณต้องการจะได้รับความรอดเดี๋ยวนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องรอเรา ถ้าคุณเอาจริงกับพระเจ้า ปรารถนาให้พระองค์ครอบครองชีวิตคุณ และปรารถนาการบังเกิดใหม่มากกว่าสิ่งอื่นใดในโลก คุณก็ทำแบบง่าย ๆ ด้วยการอธิษฐานเอง ตามคำอธิษฐานข้างล่างนี้ พระเจ้าทรงได้ยินคำอธิษฐานของคุณอยู่แล้ว

“พระบิดาเจ้า ลูกรู้ตัวว่าลูกเป็นคนบาปที่เวียนว่ายหลงทางช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และมีนรกเป็นจุดหมายปลายทาง ขอทรงโปรดยกโทษให้ลูก ลูกเสียใจ ขอโทษและขอสารภาพความผิดบาปนี้ต่อพระองค์ ลูกเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นผู้เดียวเท่านั้นที่จะช่วยลูกได้ตรงนี้และเดี๋ยวนี้ อธิษฐานใน
พระนามพระเยซูคริสตเจ้า อาเมน “

ถ้าคุณอธิษฐานตามนี้ด้วยความจริงใจ ก็หมายความว่าคุณได้ตัดสินใจทำสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคุณแล้ว ตอนนี้เมื่อคุณได้รับการทรงช่วยให้รอดแล้ว คุณควรจะอ่านพระคัมภีร์ที่มีและอธิษฐานทุก ๆ วัน นอกจากนี้คุณควรไปโบสถ์ที่เชื่อและสอนตามพระคัมภีร์จริง ๆ เพื่อจิตวิญญาณของคุณที่เป็นคริสเตียนใหม่จะได้เติบโตเข้มแข็ง

ถ้าคุณตัดสินใจอย่างนี้แล้ว กรุณาเขียนจดหมายบอกเราเผื่อว่าเราจะช่วยคุณได้ในเรื่องนี้    ขอพระเจ้าอวยพรนะครับ 

คำถามบทที่ 24

1. พระเจ้าทรงพอพระทัยกับสิ่งที่อาดัมและเอวานำมาปกปิด
    ร่างกายหรือไม่

ก) ทรงพอพระทัย

ข) ไม่ทรงพอพระทัย

2. พระเจ้าทรงทำเครื่องนุ่งห่มที่ทำจากหนังสัตว์ให้พวกเขาใช่
    หรือไม่

ก) ใช่

ข) ไม่ใช่

3. สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเราไม่สามารถทำตัวเองให้ดีพร้อมก่อน
    พระองค์และต้องการความช่วยเหลือจากพระองค์ใช่หรือไม่

ก) ใช่

ข) ไม่ใช่

4. พระเจ้าไม่ทรงโปรดของถวายของคาอินเพราะว่าเขานำของ
    มาถวายตามความคิดของเขาเอง ไม่ใช่ตามที่พระเจ้าทรง
    บัญชาใช่หรือไม่

ก) ใช่

ข) ไม่ใช่

5. พระเจ้าทรงบอกให้โนอาห์สร้างประตู 1 บาน ที่นาวาใช่
    หรือไม่

ก) ใช่

ข) ไม่ใช่

6. นี่แสดงให้เห็นว่าพระเยซูทรงเป็นหนทางเดียวที่จะพาเราไป
    ยังพระเจ้าและสวรรค์ได้ใช่หรือไม่  

ก) ใช่

ข) ไม่ใช่

7. ตอนที่ชาวอิสราเอลเป็นทาสในอียิปต์ การนำเอาเลือดแกะ
    มาทาขอบประตูสามารถช่วยชีวิต บุตรหัวปีจากความตายได้
    หรือไม่

ก) ได้

ข) ไม่ได้

8. นี่แสดงให้เห็นว่าพระโลหิตของพระเยซูสามารถช่วยเราจาก
    ความตายในบึงไฟได้ใช่หรือไม่

ก) ใช่

ข) ไม่ใช่

9. ถ้าพระเยซูไม่ทรงตายเพื่อเรา เราจะทางไหนอีกหรือไม่ที่เรา
    จะรอดพ้นจากการลงโทษความผิดบาปของพระเจ้า

ก) มี

ข) ไม่มี

10. ถ้าเราพยายามทำดีให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ พระเจ้าจะ
      ทรงยอมรับเราและมอบชีวิตนิรันดร์ในสวรรค์ให้เรา
      หรือไม่

ก) ทรงยอมรับ

ข) ไม่ทรงยอมรับ