ถ้าหากนักศึกษาคนใดๆอยากได้รับใบประกาศเณียบัตรจากสหรัฐฯ เขาต้องส่งคำตอบมาถึงเราและถ้าผ่านเราก็จะส่งใบประกาศเณียบัตรไปให้เขา ขอส่งคำตอบมายังที่: biblestudythailand@gmail.com หรือ Facebook: www.facebook.com/ThaiBibleStudy หรือ Line ID: natwill78

เรียนพระคัมภีร์จากยุคสร้างโลกถึงชีวิตพระเยซูคริสต์

บทที่ 23 – การสิ้นพระชนม์ การถูกฝังไว้และ
การเป็นขึ้นมาจากความตายของพระเยซูคริสต์


ในบรรดาเหตุการณ์ทั้งหลายในประวัติศาสตร์ เหตุการณ์ที่เรากำลังจะศึกษากันในเวลานี้เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุด  ไม่มีเหตุการณ์อื่นใดเคยมีผลกระทบหรือที่จะมีผลกระทบต่อชีวิตของชายและหญิงเหมือนอย่างเหตุการณ์เพียงเหตุการณ์เดียวนี้เลย  เราจะมาศึกษากันถึงสิ่งที่พระเยซูได้ทรงกระทำสำหรับเราทั้งหลายเพื่อเราจะได้รับการยอมรับจากพระเจ้าอย่างเต็มที่และไม่ต้องเข้าสู่การลงโทษนิรันดร์

 มาระโก 15:22-25  เขาพาพระองค์มาถึงสถานที่แห่งหนึ่งชื่อกลโกธา แปลว่า สถานที่กะโหลกศีรษะ แล้วเขาเอาน้ำองุ่นระคนกับมดยอบให้พระองค์เสวย แต่พระองค์ไม่รับ ครั้นเขาตรึงพระองค์ที่กางเขนแล้ว เขาก็เอาฉลองพระองค์จับสลากแบ่งปันกันเพื่อจะรู้ว่าใครจะได้อะไร เมื่อเขาตรึงพระองค์ไว้นั้นเป็นเวลาเช้าสามโมง

  ภูเขากลโกธานั้นอยู่นอกกำแพงกรุงเยรูซาเล็มพอดี  น้ำดื่มดังกล่าวถูกเตรียมขึ้นโดยพวกผู้หญิงในกรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นการกระทำที่แสดงถึงความเมตตากรุณาที่จะช่วยให้คนที่กำลังถูกตรึงกางเขนนั้นรู้สึกชาจากอาการเจ็บปวดเหล่านั้น  ตะปูได้ถูกตอกเข้าไปที่มือและเท้าของพระเยซูและตอกทะลุเข้าไปในกางเขนไม้ แล้วกางเขนก็ถูกยกตั้งขึ้น  พระเยซูเคยตรัสบอกแก่นิโคเดมัสว่าโมเสสได้ยกงูซึ่งอยู่บนเสาขึ้นฉันใดพระองค์ผู้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดก็จะถูกยกขึ้นฉันนั้น เพื่อว่าบรรดาคนบาปทั้งปวงจะสามารถรอดพ้นจากการลงโทษได้

เกือบ 1000 ปีก่อนหน้านี้พระเจ้าได้ทรงชี้นำให้กษัตริย์ดาวิดบันทึกไว้ว่ามือและเท้าของพระผู้ช่วยให้รอดจะถูกตอกทะลุ  นอกจากนี้กษัตริย์ดาวิดยังกล่าวอีกว่าฉลองพระองค์ของพระผู้ช่วยให้รอดจะเป็นรางวัลสำหรับการเล่นพนันกันด้วย

ตามปกติแล้วจะมีการนำป้ายขึ้นไปติดไว้เหนือนักโทษประหารเพื่อระบุว่าได้พบความผิดอะไรที่คนๆ นั้นได้กระทำลงไป แต่พระเยซูไม่ได้กระทำความผิดประการใด  ปีลาตไม่สามารถจะพบอะไรที่จะเป็นความผิดสำหรับตั้งข้อหาต่อพระองค์ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงทำป้ายชื่อที่เขียนว่า พระเยซูทรงเป็นกษัตริย์ของพวกยิว ไปติดไว้  พระเยซูกำลังจะสิ้นพระชนม์เพื่อความบาปของฉัน ความบาปของคุณและความบาปทั้งหลายของคนทั้งโลกด้วย  คุณและฉันสมควรที่จะอยู่บนกางเขนนั้น พระองค์ทรงยอมแบกรับโทษทัณฑ์ของเรา  พระองค์ทรงชดใช้ราคาอย่างเต็มขนาดเพื่อเราทั้งหลายแล้ว

นี่เป็นสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงกระทำเพื่อเราทั้งหลายจะสามารถได้รับการช่วยเหลือให้รอดพ้นจากซาตาน ความบาปและความตายได้ตลอดไป   ประการแรก ความบาปจะต้องได้รับการชดใช้  พระเจ้าไม่สามารถจะอภัยโทษให้แก่เราสำหรับความบาปของเราและยอมรับเราได้เว้นเสียแต่ว่าโทษทัณฑ์สำหรับความบาปของเราจะได้รับการชดใช้ทั้งสิ้น  การลงโทษสำหรับความบาปคืออะไรล่ะ?  “ความตาย”  นี่ไม่ได้หมายถึงความตายฝ่ายร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการถูกแยกจากพระเจ้าตลอดไปเป็นนิตย์ในนรกนั่นเอง ดังนั้นหนทางเดียวที่พระเยซูจะสามารถช่วยเราให้รอดพ้นได้ก็โดยการที่พระองค์จะต้องมาแทนที่เราต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้าและถูกลงโทษสำหรับความบาปทั้งหลายของเรา

  ประการที่สอง พระเยซูทรงปราศจากบาป พระเยซูไม่มีบาปใดๆ เลย พระเยซูทรงสมบูรณ์พร้อมทุกประการ 
พระเยซูสามารถจะถวายพระองค์เองเป็นเครื่องบูชาต่อพระเจ้าสำหรับความบาปทั้งหลายของเราเพราะพระองค์ทรงปราศจากบาปนี่เอง  ตั้งแต่เวลาที่มนุษย์ได้กระทำความผิดบาปพระเจ้าก็ตรัสว่าเมื่อใดก็ตามที่ผู้หนึ่งผู้ใดถวายลูกแกะหรือสัตว์อื่นๆ แก่พระเจ้าสัตว์ตัวนั้นจะต้อ
ปราศจากตำหนิ  มันจะต้องไม่ป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ  คุณคงจะจำได้ถึงตอนที่อิสอัคถูกมัดไว้กับแท่นบูชาขณะที่อับราฮัมกำลังจะสังหารบุตรชายของตนเองนั้น  ทันใดนั้นเองพระเจ้าได้ทรงห้ามอับราฮัมและทรงให้มีแกะตัวผู้ตัวหนึ่งติดอยู่ในพุ่มไม้โดยที่เขาของมันเกี่ยวอยู่กับพุ่มไม้ซึ่งอยู่ข้างหลังฮับราฮัม  พระเจ้าทรงให้แกะตัวผู้อยู่ที่นั่นเพื่อว่ามันจะตายแทนอิสอัคนั่นเอง  ถ้าแกะตัวผู้นั้นบาดเจ็บพระเจ้าก็คงยอมรับมันเป็นเครื่องบูชาไม่ได้ นั่นเป็นเหตุที่แกะผู้ตัวนั้นติดอยู่โดยที่เขาของมันเกี่ยวไว้กับพุ่มไม้  แกะผู้ตัวนั้นตายแทนอิสอัคฉันใด พระเยซูก็เสด็จเข้ามาในโลกเพื่อตายแทนเราทั้งหลายฉันนั้น

ประการที่สาม พระเยซูทรงถูกแยกจากพระเจ้าสำหรับความบาปทั้งหลายของเรา  ในระหว่างเวลากลางวันพระเจ้าได้ทรงบันดาลให้แสงอาทิตย์ถูกบดบังและได้เกิดความมืดมิดเป็นเวลา 3  ชั่วโมง  พระเจ้าทรงหันหลังให้กับพระเยซู  พระเจ้าทรงหันเสียจากพระเยซูและทิ้งให้พระบุตรที่รักของพระองค์ไว้ตามลำพังอย่างสิ้นเชิง  ในช่วงเวลานี้พระเยซูซึ่งอยู่บนไม้กางเขนได้ถูกแยกจากพระเจ้าเพื่อเป็นการลงโทษสำหรับความบาปของเราทั้งหลาย  พระเยซูทรงทนทุกข์ทรมานกับการลงโทษทั้งปวงสำหรับความบาปของเราเพื่อว่าพระเจ้าจะสามารถอภัยโทษและยอมรับทุกคนที่เห็นด้วยกับพระเจ้าและไว้วางใจในพระเยซูแต่เพียงผู้เดียวได้อย่างเต็มที่

มาระโก 15:37   ฝ่ายพระเยซูทรงร้องเสียงดัง แล้วทรงปล่อยพระวิญญาณจิตออกไป

ประการที่สี่ พระเยซูได้ทรงกระทำทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการช่วยนำพาเราให้รอดพ้นจากซาตาน ความบาปและความตาย  พระองค์ทรงกระทำงานของพระองค์จนสำเร็จโดยการถูกแยกจากพระเจ้าและการสละพระโลหิตและชีวิตของพระองค์เพื่อเป็นค่าชดใช้สำหรับความบาปทั้งหลายของเราอย่างเต็มขนาด  พระเยซูทรงชดใช้ทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับความบาปของเราให้แก่พระเจ้าแล้ว เพราะฉะนั้นมนุษย์ทุกคนที่เห็นด้วยกับพระเจ้าและไว้วางใจในพระเยซูก็ได้รับการอภัยโทษจากพระเจ้าสำหรับความบาปทุกอย่างของเขาแล้ว  พระเจ้าทรงประทานของขวัญ คือชีวิตนิรันดร์แก่เขาทั้งหลาย  พระเยซูได้ทรงกระทำสิ่งที่เราทั้งหลายไม่สามารถจะทำได้เพื่อเรา ซึ่งเป็นหนทางที่เราจะได้รับการยอมรับจากพระเจ้าได้  ภารกิจที่
พระเยซูได้ทรงกระทำเพื่อเราทั้งหลายนั้นเป็นภารกิจเดียวที่พระเจ้าทรงยอมรับเพื่อเป็นค่าชดใช้สำหรับความบาปของเราทั้งหลาย

ร่างของพระเยซูได้ถูกนำลงมาจากกางเขนและถูกฝังไว้ในอุโมงค์ฝังศพของเศรษฐีคนหนึ่ง ซึ่งมีชื่อว่า โยเซฟแห่งอาริมาเธีย  พวกทหารโรมันได้กลิ้งหินก้อนใหญ่มาปิดปากทางเข้าอุโมงค์ฝังศพแห่งนั้น พระศพของพระเยซูอยู่ในอุโมงค์ฝังศพเป็นเวลา 3  วัน 3  คืน  เมื่อครบกำหนดเวลาดังกล่าวแล้วในตอนเช้าวันแรกของสัปดาห์ (คือวันอาทิตย์) มีผู้หญิงบางคนที่เชื่อในพระเยซูได้กลับไปยังถ้ำที่ใช้สำหรับฝังศพนั้นอีก ตามธรรมเนียมของชาวยิวจะมีการใส่เครื่องหอมบนศพของคนตายก่อนจะนำไปฝัง  ผู้หญิงเหล่านี้ได้เดินทางมาในวันอาทิตย์ตอนเช้าเพื่อจะชะโลมพระศพพระเยซู  พวกผู้หญิงคาดหวังว่าจะยังคงพบพระศพของพระองค์ในอุโมงค์ฝังศพนั้น แต่พวกเขาก็ต้องตกใจอย่างยิ่ง

ลูกา 24:2,3  เขาเหล่านั้นเห็นก้อนหินกลิ้งออกพ้นจากปากอุโมงค์แล้ว และเมื่อเข้าไปมิได้เห็นพระศพของพระเยซูเจ้า

พวกผู้หญิงไม่ทราบว่าพระเจ้าได้ใช้ให้ทูตสวรรค์ของพระองค์ไปกลิ้งหินอันหนักอึ้งออกจากทางเข้าอุโมงค์ซึ่ง
พระศพของพระองค์ได้ถูกวางไว้  พระศพของพระเยซูไม่ได้อยู่ในอุโมงค์ฝังศพแล้ว และพวกผู้หญิงก็ตกใจยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อมีทูตสวรรค์ 2 องค์มาทักทายพวกเขา

ลูกา 24:4-7   ต่อมาเมื่อเขากำลังคิดฉงนด้วยเหตุการณ์นั้น ดูเถิด มีชายสองคนยืนอยู่ใกล้เขา เครื่องนุ่งห่มแพรวพราว  ฝ่ายผู้หญิงเหล่านั้นกลัวและซบหน้าลงถึงดิน ชายสองคนนั้นจึงพูดกับเขาว่า “พวกท่านแสวงหาคนเป็นในพวกคนตายทำไมเล่า พระองค์ไม่อยู่ที่นี่ แต่ทรงเป็นขึ้นมาแล้ว จงระลึกถึงคำที่พระองค์ได้ตรัสกับท่านทั้งหลายเมื่อพระองค์ยังอยู่ในแคว้นกาลิลีว่า ‘บุตรมนุษย์จะต้องถูกมอบไว้ในมือของคนบาป และต้องถูกตรึงที่กางเขน และวันที่สามจะเป็นขึ้นมาใหม่’”

พระเยซูทรงเป็นขึ้นมาจากความตายเหมือนที่พระองค์ได้ตรัสว่าพระองค์จะเป็นขึ้นมาอีก  พระเยซูทรงเป็นพระเจ้า พระองค์เสด็จลงมายังแผ่นดินโลกและทรงรับสภาพของมนุษย์เพื่อช่วยนำพาเราให้รอดพ้นจากซาตาน ความบาป และความตาย  พระเยซูได้ทราบก่อนที่พระองค์จะละจากสวรรค์แล้วว่าพระองค์จะต้องสละชีวิตของพระองค์และจะทรงเป็นขึ้นมาอีก  สาวกของพระองค์ทุกคนน่าจะเฝ้ารอคอยพระองค์และคาดหวังว่าพระองค์จะทรงเป็นขึ้นมาจากความตายเพราะพระองค์ได้ตรัสบอกแก่พวกเขาหลายครั้งก่อนแล้วว่าพระองค์จะทรงเป็นขึ้นมาอีกในวันที่สาม  พวกสาวกอาจจะไม่เข้าใจหรือไม่ก็อาจจะจำสิ่งที่พระองค์ตรัสไม่ได้ หรือพวกเขาอาจจะไม่เชื่อว่าการที่พระองค์จะเสด็จออกมาจากอุโมงค์ฝังศพอย่างมีชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้

เราแน่ใจได้ว่าพระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดที่ทรงสัญญาไว้เพราะพระเจ้าได้ทรงโปรดให้พระเยซูเป็นขึ้นมาจากความตาย  บรรดาผู้นำของพวกยิวได้ตรึงพระเยซูที่กางเขนเพราะพระองค์ได้ตรัสยืนยันว่าพระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอด แต่พระเจ้าทรงโปรดให้พระเยซูเป็นขึ้นมาจากความตายเพื่อทุกคนจะทราบว่าพระเยซูทรงเป็นผู้ที่พระองค์กล่าวอ้างไว้อย่างแท้จริง  เรายังแน่ใจอีกว่าพระเจ้าทรงพอพระทัยอย่างเต็มที่กับค่าชดใช้สำหรับความบาปทั้งหลายของเรา ซึ่งพระเยซูได้ชดใช้ด้วยพระโลหิตของพระองค์เองเพราะพระเจ้าได้ทรงโปรดให้พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว  พระเยซูไม่มีบาปใดๆ ของพระองค์เลย แต่พระองค์ทรงยอมรับความรับผิดชอบที่จะชดใช้ราคาทั้งหมดสำหรับความบาปทั้งหลายของเรา  เราทั้งหลายจะเป็นที่ยอมรับของพระเจ้าได้นั้นราคาทั้งหมดสำหรับความบาปของเราจะต้องได้รับการชดใช้เสียก่อน ด้วยเหตุนี้พระเยซูจึงได้เสด็จมาแทนที่เราทั้งหลายต่อเบื้อง
พระพักตร์พระเจ้าซึ่งทรงเป็นผู้พิพากษา แล้ว   พระเจ้าก็ทรงลงโทษพระเยซูแทนเราทั้งหลายนั่นเอง

ถ้าเป็นเช่นนั้นคุณจะสามารถได้รับการช่วยเหลือให้รอดพ้นจากซาตาน ความบาปและการถูกแยกจากพระเจ้าตลอดไปเป็นนิตย์ได้อย่างไร?  คุณจะต้องกลับใจเสียใหม่และเห็นด้วยกับพระเจ้าว่าคุณเป็นคนบาปที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้และไม่สามารถจะช่วยตนเองให้รอดได้ แล้วก็ให้คุณมอบความไว้วางใจใน   พระเยซูเจ้าอย่างเต็มที่โดยเชื่อว่าพระองค์ได้สละพระโลหิตของพระองค์เป็นค่าชดใช้อย่างเต็มขนาดสำหรับความบาปทั้งหลายของคุณและได้ทรงคืนพระชนม์ขึ้นมาจากความตายเพื่อจะประทานชีวิตนิรันดร์แก่คุณ 
พระเยซูได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อคนทั้งปวงและพระเจ้าทรงปรารถนาที่จะให้มนุษย์ทุกคนรู้ว่าพวกเขาสามารถจะรับการช่วยเหลือให้รอดพ้นจากซาตาน ความบาปและความตายได้  พระเจ้าไม่ปรารถนาให้ผู้หนึ่งผู้ใดต้องทนทุกข์ทรมานกับการลงโทษ    นิรันดร์ นี่คือเป้าหมายของการศึกษาพระคัมภีร์ในครั้งนี้เพื่อว่าคุณจะสามารถได้ยิน เข้าใจและเชื่อในข่าวประเสริฐที่ดีเลิศและสามารถจะแบ่งปันข่าวประเสริฐดังกล่าวแก่คนอื่น ๆ ได้ด้วย

ข้าพเจ้าไม่ได้เห็นพระเยซูด้วยตาของข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าเชื่อว่าพระเยซูได้เสด็จเข้ามาในโลกและเชื่อว่าพระองค์ได้สิ้นพระชนม์สำหรับความบาปของเราทั้งหลายและได้ทรงคืนพระชนม์ขึ้นมาอีกในวันที่สาม ข้าพเจ้าทราบและเชื่อเหตุการณ์นี้เพราะพระเจ้าได้ทรงบันทึกเรื่องราวเหล่านี้ไว้ในพระคัมภีร์  ข้าพเจ้าเห็นด้วยกับพระเจ้าว่าข้าพเจ้าเป็นคนบาปที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้และข้าพเจ้าได้ไว้วางใจในพระเยซู  การชดใช้ของพระองค์สำหรับข้าพเจ้าโดยการสิ้นพระชนม์ของพระองค์เป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่ข้าพเจ้าไว้วางใจเพื่อข้าพเจ้าจะได้รับการยอมรับต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้าได้  เรื่องสำคัญก็คือคุณจะต้องเชื่อข้อความนี้ซึ่งพระเจ้าได้ทรงบันทึกไว้ใน
พระวจนะของพระองค์  พระเจ้าตรัสว่าเราจะต้องเชื่อข่าวประเสริฐนี้ว่าพระเยซูทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดที่ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา ทรงถูกฝังไว้และทรงเป็นขึ้นมาจากความตายอีก  โดยความเชื่อเราเองก็สามารถจะทราบด้วยว่าความบาปทั้งหลายของเราได้รับการอภัยโทษจากพระเจ้าแล้วและพระองค์จะทรงยอมรับเราอย่างแน่นอน

  หลังจากที่พระเยซูได้ทรงสั่งให้สาวกทั้งหลายของพระองค์นำข่าวประเสริฐนี้ไปถึงมนุษย์ทุกคนแล้วพระองค์ก็ทรงจากพวกเขาและกลับไปหาพระเจ้าพระบิดาในสวรรค์  พระเยซูกำลังจะเสด็จกลับมายังแผ่นดินโลกอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ได้มาเพื่อช่วยนำพาคนบาปให้รอดพ้นจากซาตาน ความบาป และความตาย เพราะพระองค์ได้ทรงกระทำงานนี้สำเร็จแล้ว  บัดนี้พระเจ้าทรงบัญชาให้มนุษย์ทุกคนกลับใจเสียใหม่ นั่นคือการยอมเห็นด้วยกับพระเจ้าว่าเขาทั้งหลายเป็นคนบาปที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ซึ่งสมควรจะได้รับโทษทัณฑ์ของเขาและไว้วางใจในค่าชดใช้ที่พระเยซูได้ทรงชดใช้เพื่อพวกเขาแล้ว  ในครั้งหน้าพระเยซูจะเสด็จมาอย่างผู้พิพากษาแผ่นดินโลกทั้งสิ้น  คนเหล่านั้นทุกคนที่ไม่ได้กลับใจเสียใหม่และไว้วางใจในพระเยซูและค่าชดใช้ของพระองค์สำหรับเขาทั้งหลายก็จะถูกทิ้งลงในบึงไฟพร้อมกับซาตานและพวกทูตสวรรค์ของมันนั่นเอง

คำถามบทที่ 23

1. พระเยซูทรงพลีพระชนม์เพื่อบาปของเราใช่หรือไม่

ก) ใช่

ข) ไม่ใช่

2. พวกผู้หญิงเจอศพของพระเยซูหรือไม่

ก) เจอ

ข) ไม่เจอ

3. พระเยซูทรงฟื้นขึ้นมาจากความตายใช่หรือไม่

ก) ใช่

ข) ไม่ใช่

4. พระเจ้าทรงพอพระทัยกับการเสียสละของพระเยซูคริสต์ที่
    ทรงชดใช้ความบาปเพื่อเราทั้งหลายหรือไม่

ก) ทรงพอพระทัย

ข) ไม่ทรงพอพระทัย

5. หากเรารู้ว่าเราเป็นคนบาป และสำนึกในความผิดบาปนั้น
    โดยหันมาเชื่อในพระเยซูคริสต์แล้ว  พระเจ้าจะทรงยอมรับ
     เราและมอบชีวิตนิรันดร์ให้กับเราหรือไม่

ก) ทรงยอมรับ

ข) ไม่ทรงยอมรับ

6. พระเยซูจะเสด็จกลับมาในโลกนี้อีกหรือไม่

ก) จะเสด็จมาอีก  

ข) ไม่เสด็จมาอีก

7. เมื่อพระองค์เสด็จกลับมา พระองค์จะทรงทำอะไร

ก) จะทรงพิพากษาโลก

ข) จะพลีพระชนม์เพื่อบาปของเราอีกครั้ง

ค) จะทรงสอนคนให้เป็นคนดี