ถ้าหากนักศึกษาคนใดๆอยากได้รับใบประกาศเณียบัตรจากสหรัฐฯ เขาต้องส่งคำตอบมาถึงเราและถ้าผ่านเราก็จะส่งใบประกาศเณียบัตรไปให้เขา ขอส่งคำตอบมายังที่: biblestudythailand@gmail.com หรือ Facebook: www.facebook.com/ThaiBibleStudy หรือ Line ID: natwill78

เรียนพระคัมภีร์จากยุคสร้างโลกถึงชีวิตพระเยซูคริสต์

บทที่ 15 – พระเจ้าทรงส่งพระผู้ช่วยให้รอดให้
เสด็จเข้ามาในโลก


ผู้เผยพระวจนะคนสุดท้ายที่เผยพระวจนะในนามของพระเจ้าเป็นชายที่ชื่อว่า มาลาคี  เขาได้เตือนสติชนชาติยิวให้ระลึกถึงพระผู้ช่วยให้รอดที่พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะเสด็จมาช่วยพวกเขาให้รอดพ้นจากความทุกข์ยาก   มาลาคียังได้บอกแก่ชนชาติยิวให้ทราบอีกว่า พระเจ้าจะทรงใช้ผู้เผยพระวจนะมาอีกคนหนึ่งก่อนที่พระผู้ช่วยให้รอดจะเสด็จมา และภารกิจของผู้เผยพระวจนะท่านนี้ คือการสั่งสอนประชาชนเพื่อพวกเขาจะพร้อมสำหรับพระผู้ช่วยให้รอดที่จะเสด็จมานั้น   อย่างไรก็ตาม หลังจากสมัยของมาลาคีเวลาได้ผ่านพ้นไปถึง 400 ปีโดยที่พระเจ้าไม่ได้ตรัสผ่านผู้เผยพระวจนะคนใดเลย  ช่วงระยะเวลานี้เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าเป็น “ยุคเงียบ” 

ภายหลังจากที่ยุคเงียบจบสิ้นลงแล้ว  พระเจ้าก็พร้อมที่จะกระทำสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้ตั้งแต่แรกในสวน
เอเดน  พระองค์ทรงพร้อมที่จะส่งพระผู้ช่วยให้รอดให้เสด็จเข้ามาในโลกแล้ว เวลานี้เราจะมาศึกษาพระคัมภีร์ใหม่กันโดยเริ่มที่คู่สามีภรรยาชาวยิวที่ชรามากซึ่งเป็นผู้ที่เชื่อพระเจ้าและกำลังรอคอยพระผู้ช่วยให้รอดอยู่

ลูกา 1:5,6  ในรัชกาลเฮโรด กษัตริย์ของยูเดีย มีปุโรหิตคนหนึ่งชื่อเศคาริยาห์ อยู่ในเวรอาบียาห์ ภรรยาของเศคาริยาห์ชื่อเอลีซาเบธ อยู่ในตระกูลอาโรน   เขาทั้งสองเป็นคนชอบธรรมจำเพาะพระพักตร์พระเจ้า และดำเนินตามพระบัญญัติและกฎทั้งปวงขององค์พระผู้เป็นเจ้าโดยไม่มีที่ติเลย

เศคาริยาห์และเอลีซาเบธแก่ชรามากแล้วและไม่สามารถมีบุตรได้  เศคาริยาห์เป็นปุโรหิตคนหนึ่งในพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็ม  ขณะที่เขากำลังกระทำภารกิจของตนเองอยู่นั้น  ทูตสวรรค์องค์หนึ่งได้ถูกพระเจ้าใช้ให้มาบอกข่าวสำคัญแก่เขา  พระเจ้าได้ทรงสัญญาแก่เศคาริยาห์ผู้ชราว่าเขาจะมีบุตรชายคนหนึ่งและจะต้องตั้งชื่อบุตรนั้นว่า   ยอห์น   ยอห์นนี่เองที่จะเป็นผู้เผยพระวจนะคนสุดท้ายซึ่งจะจัดเตรียมประชาชนให้พร้อมสำหรับพระผู้ช่วยให้รอดที่จะเสด็จมา  
ทูตสวรรค์ได้เรียกพระผู้ช่วยให้รอดที่จะเสด็จมานั้นว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้า”  พระผู้ช่วยให้รอดที่จะเสด็จมาช่วยมนุษยชาติทั้งปวงให้รอดนั้น คือพระเจ้านั่นเอง

ต่อมาไม่กี่สัปดาห์ พระเจ้าได้ใช้ทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งให้ไปแจ้งแก่หญิงพรหมจารีย์คนหนึ่งที่ชื่อมารีย์ว่า 
พระเจ้าได้ทรงเลือกเธอให้เป็นมารดาของ  พระผู้ช่วยให้รอดที่จะเสด็จมานั้น และจะต้องตั้งชื่อของท่านผู้นั้นว่า เยซู ซึ่งหมายถึงพระผู้ช่วยให้รอดหรือพระผู้นำพาให้รอด   พระเจ้าทรงรักชาวโลกทั้งปวงและพระองค์ทรงปรารถนาให้คนบาปทั้งหลายได้รับการช่วยเหลือให้รอดพ้นจากการลงโทษที่พวกเขาสมควรจะได้รับนั้น  พระเยซูไม่เพียงแต่จะเป็นบุตรชายของนางมารีย์เท่านั้น พระองค์ยังทรงเป็นพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้าด้วย

เราได้เกริ่นถึงตรีเอกานุภาพในบทแรกๆ จากการศึกษาของเรามาแล้วในหนังสือเล่มที่ 1   เราได้เรียนรู้ว่าแม้จะมีพระเจ้าเพียงองค์เดียว แต่พระเจ้าทรงเป็น 3 บุคคล ซึ่งมีพระลักษณะและฤทธานุภาพเท่าเทียมกัน  บุคคลเหล่านี้ คือพระเจ้าพระบิดา พระเจ้าพระบุตร และพระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์แนวความคิดนี้ก็ยากที่จะเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ 
พระบิดาก็ไม่ใช่พระบุตร หรือพระวิญญาณบริสุทธิ์ แต่แม้กระนั้นก็ตามบุคคลทั้ง 3 นี้ก็ทรงเป็นพระเจ้าองค์เดียวกันทั้งสิ้น   หลายปีมาแล้วที่มีความพยายามในหลายๆ รูปแบบที่จะอธิบายเกี่ยวกับตรีเอกานุภาพ ยกตัวอย่างเช่น มีการอธิบายว่า ไข่ทุกฟองประกอบด้วยเปลือก ไข่แดง และไข่ขาว  ส่วนต่าง ๆ เหล่านี้เป็นส่วนที่แยกจากกันอย่างชัดเจน แต่ก็ยังคงเป็นไข่ใบเดียวกัน    มิติของกล่องใบหนึ่งนั้นมีความยาว ความกว้าง และความสูง ถึงแม้ว่าแต่ละมิติจะไม่เหมือนกัน แต่มิติเหล่านี้ก็ไม่สามารถจะถูกแยกออกไปเพื่อจะอธิบายกล่องทั้งใบได้   น้ำอยู่ได้ทั้ง 3 สถานะ คือ ของแข็ง ของเหลว และก๊าซ แต่ถึงแม้ว่าน้ำจะสามารถอยู่ได้ทั้ง 3 สถานะก็ตาม แต่มันก็ยังคงเป็นน้ำนั่นเอง

แม้ว่าการอธิบายให้เห็นภาพด้วยตัวอย่างเหล่านี้จะมีประโยชน์อยู่บ้าง แต่ตัวอย่างเหล่านี้ก็ยังคงไม่สามารถจะช่วยให้เราเข้าใจได้อย่างเต็มที่  เราจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังที่จะไม่พยายามดึงพระเจ้าให้ลงมาอยู่ในระดับเดียวกับเราและมองพระองค์เหมือนเป็นบุคคลคนหนึ่งเช่นเดียวกับเราทั้งหลาย   เมื่อเราเป็นเด็กมีหลายสิ่งที่เราไม่เข้าใจ แต่เราก็เชื่อพ่อแม่ของเรา ยกตัวอย่างเช่น ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่อันตรายมาก แต่มันคืออะไรกันแน่?  เมื่อฉันถอดสายออกมาจากปลั๊กแล้วทำไมมันไม่ไหลลงไปที่พื้นล่ะ? ฉันมองไม่เห็นมันเลยนะเนี่ย  พ่อแม่พูดถึงอะไรเหรอที่บอกว่ามันจะทำให้ฉันต้องเจ็บตัวถ้าฉันแหย่นิ้วเข้าไปในปลั๊กนั้น? 

พระผู้ช่วยให้รอดจะต้องเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับเราทั้งหลาย เว้นแต่ว่าพระองค์จะต้องปราศจากบาปเพื่อจะสามารถช่วยเราให้รอดพ้นจากซาตานและความบาปได้ ดังนั้นเพื่อว่าแผนการของพระเจ้าเกี่ยวกับพระผู้ช่วยให้รอดจะสำเร็จได้ พระเจ้าพระบุตรจึงต้องเสด็จมาประสูติเป็นมนุษย์   พระเจ้าได้ทรงเลือกนางมารีย์เป็นมารดาของพระผู้ช่วยให้รอด  บุตรชายของนางมารีย์จะเป็นทั้งพระเจ้าและมนุษย์ในพระกายเดียวกัน  พระเยซูจะเป็นทั้งพระเจ้าอย่างเต็มที่และเป็นมนุษย์อย่างเต็มที่ด้วย

 ลูกา 1: 34, 35  ฝ่ายมารีย์ทูลทูตสวรรค์นั้นว่า“เหตุการณ์นั้นจะเป็นไปอย่างไรได้ เพราะข้าพเจ้ายังหาได้ร่วมกับชายใดไม่” 
ทูตสวรรค์จึงตอบเธอว่า“พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จลงมาบนเธอ และฤทธิ์เดชของผู้สูงสุดจะปกเธอ เหตุฉะนั้นองค์บริสุทธิ์ที่จะบังเกิดมานั้นจะได้เรียกว่า พระบุตรของพระเจ้า ....”

นางมารีย์ไม่เข้าใจว่าตัวเธอเองจะมีบุตรโดยปราศจากบิดาที่เป็นมนุษย์ได้อย่างไร ทูตสวรรค์องค์นั้นกล่าวว่าพระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงกระทำการอัศจรรย์นี้เอง  พระเยซูจะประสูติโดยไม่มีบาปเพราะพระองค์ประสูติโดยปราศจากบิดาที่เป็นมนุษย์  ไม่มีเชื้อสายคนใดของอาดัมที่บริสุทธิ์และชอบธรรม  มนุษย์ทุกคนในโลกต่างก็สืบทอดความบาปของอาดัมมาด้วยกันทั้งสิ้น แต่พระบิดาของพระเยซู คือพระเจ้าซึ่งสมบูรณ์พร้อมทุกอย่างและทรงบริสุทธิ์  พระเยซูไม่ได้สืบทอดธรรมชาติแห่งความบาปของอาดัมมาด้วย เพราะพระเยซูทรงเป็นพระบุตรที่สมบูรณ์พร้อมของพระเจ้า คือทรงบริสุทธิ์และปราศจากบาป   การที่หญิงพรหมจารีย์จะตั้งครรภ์นั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้  อย่างไรก็ตาม สำหรับพระเจ้าแล้วทุกสิ่งก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น  พระเจ้าได้ทรงสร้างอาดัมขึ้นมาจากผงคลีดิน ดังนั้นจึงไม่เป็นการยากสำหรับพระเจ้าที่จะประทานบุตรผู้นี้แก่นางมารีย์โดยปราศจากบิดาที่เป็นมนุษย์

พระผู้ช่วยให้รอดซึ่งยอห์นจะมาเตรียมหนทางให้นั้น คือพระเจ้านั่นเอง  ไม่มีมนุษย์ธรรมดาคนใดสามารถจะช่วยเราให้รอดพ้นจากซาตาน ความบาป และความตายได้   ใครเป็นผู้ที่ช่วยโนอาห์และครอบครัวให้รอดพ้นจากน้ำท่วมครั้งใหญ่?  ใครเป็นผู้ที่ช่วยอิสอัคให้รอดพ้นจากความตายและจัดเตรียมแกะตัวผู้ไว้เพื่อจะตายแทนอิสอัค?  ใครเป็นผู้ที่ช่วยโลทให้รอดพ้นจากการทำลายล้างเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์?  ใครเป็นผู้ที่ช่วยชนชาติอิสราเอลทั้งหลายให้รอดพ้นจากการเป็นทาสในประเทศอียิปต์? มีแต่พระเจ้าสูงสุดเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นที่ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด  พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะส่งพระผู้ช่วยให้รอดมาเพียงองค์เดียวซึ่งจะทรงกระทำให้เป็นไปได้ที่เราจะมาถึงพระเจ้า

นอกจากนี้พระเยซูยังเรียกว่า พระคริสต์ อีกด้วย  

พระคริสต์ หมายถึง“ผู้ที่ถูกเจิม” ซึ่งหมายถึง ผู้ที่พระเจ้าทรงแยกไว้ต่างหากเพื่อจะกระทำภารกิจพิเศษ  พระองค์จะทรงเป็นผู้เผยพระวจนะของพระเจ้า  ทรงเป็นปุโรหิตและเป็นกษัตริย์  พระเยซูได้ถูกใช้ให้เสด็จเข้ามาในโลกในฐานะผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าเพื่อจะประกาศถึงหนทางของพระเจ้าที่จะช่วยให้มนุษยชาติทั้งปวงรอดพ้นจากซาตาน ความบาป และการลงโทษนิรันดร์  พระเจ้ายังได้ใช้พระเยซูให้มาเป็นมหาปุโรหิตที่ยิ่งใหญ่คนสุดท้ายอีกด้วย และในที่สุดพระเยซูจะทรงเป็นกษัตริย์ผู้ทรงครอบครองสิ่งสารพัดทั้งสิ้น

  นางมารีย์ซึ่งจะเป็นมารดาของพระเยซูนั้นได้ตกลงว่าจะแต่งงานกับชายผู้หนึ่งที่มีชื่อว่า
โยเซฟ  โยโซฟพบว่านางมารีย์ตั้งครรภ์  โยเซฟรู้ว่าตนเองไม่ใช่บิดาของทารกในครรภ์นี้   ตามธรรมเนียมชาวยิวโยเซฟสามารถจะเรียกร้องให้ฆ่านางมารีย์โทษฐานที่ตั้งครรภ์โดยที่ทารกไม่ได้เกิดจากโยเซฟได้   อย่างไรก็ตามโยเซฟรักนางมารีย์และตัดสินใจว่าจะถอนหมั้นกันอย่างลับๆ  แต่พระเจ้าไม่ทรงยอมให้โยเซฟแยกจากมารีย์เพราะโยเซฟเป็นผู้ชายที่ดีและไว้วางใจในพระเจ้า   โยเซฟเองก็เป็นคนบาปด้วย แต่เขาได้เข้ามาหาพระเจ้าตามวิธีที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้  พระเจ้าทรงปรารถนาให้โยเซฟรับนางมารีย์เป็นภรรยาเพื่อว่าพระเยซูจะมีบิดาที่ดีคนหนึ่งในโลกนี้ด้วย   พระเจ้าจึงใช้ทูตสวรรค์องค์หนึ่งไปแจ้งแก่โยเซฟให้ทราบความจริงเกี่ยวกับนางมารีย์ในความฝันว่านางมารีย์ยังคงซื่อสัตย์ต่อโยเซฟและยังคงเป็นหญิงพรหมจารีย์  

 อิสยาห์ 7:14   เพราะฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานหมายสำคัญเอง ดูเถิด หญิงพรหมจารีคนหนึ่งจะตั้งครรภ์ และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง และเขาจะเรียกนามของท่านว่า อิมมานูเอล

บรรดาผู้เผยพระวจนะทั้งหลายได้กล่าวไว้แล้วว่า
พระผู้ช่วยให้รอดจะประสูติจากหญิงพรหมจารีย์   พระเยซูจะทรงกำเนิดเข้ามาในโลกเพื่อจะช่วยคนบาปให้รอดพ้นจาก
พระอาชญาของพระเจ้า  พระองค์เสด็จมาเพื่อจะช่วยชีวิตทุกคนที่เห็นด้วยกับพระเจ้าว่าตนเองเป็นคนบาปที่ต้องการ
พระผู้ช่วยให้รอด   อิมมานูเอล แปลว่า พระเจ้าทรงอยู่กับเรา ข้อความนี้หมายความว่าพระเจ้าเองจะเสด็จเข้ามาในโลกโดยประสูติเป็นทารกและจะทรงใช้ชีวิตกับมนุษย์ในโลกนี้ 
พระเยซูประสูติในเมืองเบธเลเฮมตามที่บรรดาผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าได้กล่าวเมื่อหลายปีมาแล้วว่า พระเยซูจะประสูติเป็นพระผู้ช่วยให้รอดสำหรับคนบาปเพื่อจะปลดปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระจากการควบคุมของซาตานและความบาป

 

มัทธิว 2:1-3 ครั้นพระเยซูได้ทรงบังเกิดที่บ้านเบธเลเฮมแคว้นยูเดียในรัชกาลของกษัตริย์เฮโรด ดูเถิด มีพวกนักปราชญ์จากทิศตะวันออกมายังกรุงเยรูซาเล็ม ถามว่า “กุมารที่บังเกิดมาเป็นกษัตริย์ของชนชาติยิวนั้นอยู่ที่ไหน เราได้เห็นดาวของท่านปรากฏขึ้นในทิศตะวันออก เราจึงมาหวังจะนมัสการท่าน”  ครั้นกษัตริย์
เฮโรดได้ยินดังนั้นแล้ว ท่านก็วุ่นวายพระทัย ทั้งชาวกรุงเยรูซาเล็มก็พลอยวุ่นวายใจไปกับท่านด้วย

เฮโรดก็เหมือนกับกษัตริย์ฟาโรห์ของชาวอียิปต์ในยุคโมเสสซึ่งไม่ปรารถนาที่จะให้ใครมาปกครองเหนือตนเอง 
เฮโรดเกรงว่าพระองค์จะสูญเสียตำแหน่งกษัตริย์เมื่อทารกนี้เติบโตขึ้นเป็นชายหนุ่ม   พวกนักปราชญ์ได้พบพระกุมารเยซูอยู่กับมารดาจึงนมัสการและถวายเครื่องบรรณาการแก่พระองค์   พระเจ้าได้ทรงเตือนพวกนักปราชญ์ไม่ให้กลับไปหาเฮโรดเพราะเฮโรดปรารถนาจะทราบว่าพระกุมารเยซูอยู่ที่ไหนเพื่อจะสังหารพระกุมารนั้นเสีย  พวกนักปราชญ์จึงกลับไปยังประเทศของตนเองโดยใช้เส้นทางอื่น  พระเจ้ายังตรัสบอกให้โยเซฟพาพระเยซูไปยังประเทศอียิปต์ที่ซึ่งพระองค์จะปลอดภัยจากแผนการของ เฮโรดที่จะฆ่าพระองค์เสีย ดังนั้นพระเยซูจึงถูกพาไปยังประเทศอียิปต์ตามคำที่บรรดาผู้เผยพระวจนะทั้งหลายได้กล่าวไว้เมื่อหลายปีก่อนหน้านี้

เมื่อเฮโรดสิ้นพระชนม์พระเจ้าทรงใช้ให้ทูตสวรรค์องค์หนึ่งไปแจ้งแก่โยเซฟให้พานางมารีย์และพระเยซูออกจากประเทศอียิปต์และเดินทางกลับไปยังแผ่นดินอิสราเอลอีก  พวกเขาได้ตั้งรกรากทางตอนเหนือของประเทศอิสราเอลในเมืองที่เรียกว่า เมืองนาซาเร็ธ

 ลูกา 2:40, 52  พระกุมารนั้นก็เจริญวัย และเข้มแข็งขึ้นฝ่ายจิตวิญญาณ ประกอบด้วยสติปัญญา และพระคุณของ
พระเจ้าอยู่กับท่าน  พระเยซูก็ได้จำเริญขึ้นในด้านสติปัญญา ในด้านร่างกาย และเป็นที่ชอบจำเพาะพระเจ้า และต่อหน้าคนทั้งปวงด้วย

พระเยซูทรงเติบโตจากทารกเป็นชายหนุ่มที่แข็งแรงและประกอบด้วยสติปัญญา  พระบิดาของพระองค์ซึ่งคือ
พระเจ้านั่นเองได้ทรงปกป้องคุ้มครองและทรงนำพระเยซูในทุกสิ่งที่พระองค์คิด ตรัส และกระทำ   พระเยซูทรงเชื่อฟัง
พระบัญชาของพระเจ้าทุกประการ  พระองค์ไม่เคยกระทำบาปเพราะพระองค์ไม่ได้กำเนิดเป็นคนบาป  แม้ว่าพระเยซูจะทรงเป็นพระเจ้า แต่พระองค์ก็ยังเป็นมนุษย์อย่างแท้จริงด้วย  พระองค์ได้เติบโตขึ้นเป็นชายหนุ่มในร่างกายของมนุษย์  เราได้เรียนรู้มาแล้วว่าพระผู้ช่วยให้รอดจะต้องเป็นทั้งพระเจ้าและมนุษย์ในพระกายเดียวกัน  พระเยซูทรงเป็นพระเจ้า แต่พระองค์ก็ได้ประสูติเป็นมนุษย์เข้ามาในโลกเพื่อว่าพระองค์จะสามารถเป็นพระผู้ช่วยให้รอดสำหรับมนุษย์ชาติทั้งมวลได้

ตามที่เราได้กล่าวถึงในบทเรียนที่แล้วว่าบรรดาผู้เผยพระวจนะจากพระคัมภีร์เดิมได้เขียนคำพยากรณ์เกี่ยวกับ
พระผู้ช่วยให้รอดไว้เป็นอันมาก  ข้อมูลข้างล่างนี้เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงคำพยากรณ์บางอย่างซึ่งสำเร็จตามที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้

คำพยากรณ์                        การทำนายในพระคัมภีร์เดิม      สำเร็จในพระคัมภีร์ใหม่

เป็นเชื้อสายของกษัตริย์ดาวิด อิสยาห์ 9:7         มัทธิว 1:1

ประสูติจากหญิงพรหมจารีย์ อิสยาห์ 7:14                         มัทธิว 1:18-25

ประสูติในเมืองเบธเลเฮม มีคาห์ 5:2                           มัทธิว 2:1

หนีไปยังประเทศอียิปต์ โฮเชยา 11:1         มัทธิว 2:14

พระลักษณะบางประการของพระองค์      อิสยาห์ 11:2              ลูกา 2:52

คำถามบทที่ 15

1. เศคาริยาห์ตั้งชื่อบุตรชายของตนว่าอะไร
ก) พระเยซู

ข) ยอห์น

ค) เปโตร

ง) ดาวิด

2. งานของยอห์นคืออะไร

ก) เตรียมเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป

ข) เตรียมเป็นผู้นำคนต่อไป

ค) เตรียมคนให้พร้อมสำหรับพระผู้ช่วยให้รอดที่จะเสด็จมา

3. ทำไมพระเยซูต้องเกิดจากหญิงพรหมจารี

ก) เพื่อพระองค์จะมีพลังวิเศษ

ข) เพื่อพระองค์จะได้พบความสว่างทางปัญญาในชีวิต

ค) เพื่อพระองค์จะไม่เป็นคนบาป

4. พระเยซูคือพระผู้ช่วยให้รอดที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ใช่
    หรือไม่

ก) ใช่

ข) ไม่ใช่

5. พระนาม “อิมมานูเอล” หมายความว่าอย่างไร

ก) พระผู้ช่วยได้เสด็จมา    

ข) พระเจ้าทรงรักเรา    

ค) พระเจ้าทรงอยู่กับเรา

6. ทำไมพระเยซูทรงไม่เคยทำผิดเลย

ก) เพราะพระองค์ไม่ได้กำเนิดมาเป็นคนบาป

ข) เพราะพระองค์ได้พบความสว่างทางปัญญา

ค) เพราะพระองค์เป็นคนดี

7. พระเยซูทรงเป็นพระเจ้าแท้จริงและทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงมี
    พระชนม์อยู่ใช่หรือไม่

ก) ใช่

ข) ไม่ใช่