ถ้าหากนักศึกษาคนใดๆอยากได้รับใบประกาศเณียบัตรจากสหรัฐฯ เขาต้องส่งคำตอบมาถึงเราและถ้าผ่านเราก็จะส่งใบประกาศเณียบัตรไปให้เขา ขอส่งคำตอบมายังที่: biblestudythailand@gmail.com หรือ Facebook: www.facebook.com/ThaiBibleStudy หรือ Line ID: natwill78
เรียนพระคัมภีร์จากยุคสร้างโลกถึงชีวิตพระเยซูคริสต์
บทที่ 11 – โมเสสและเทศกาลปัสกา
บทเรียนที่แล้วจบลงตรงที่เชื้อสายของชนชาติอิสราเอลเข้าไปในประเทศอียิปต์ ตอนนี้เราจะมาเริ่มศึกษาพระธรรมเล่มที่ 2 ของพระคัมภีร์ไบเบิ้ลที่มีชื่อว่า อพยพ ซึ่งหมายถึง“การออกไป” เราจะค้นหากันว่าหลังจากที่ระยะเวลา 400 ปีได้ผ่านพ้นไปแล้วพระเจ้าทรงนำชนชาติอิสราเอลออกจากประเทศอียิปต์กลับไปยัง“แผ่นดินที่ทรงสัญญาไว้” ซึ่งหมายถึงแผ่นดินที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาว่าจะประทานให้แก่อับราฮัมได้อย่างไร
โยเซฟและคนรุ่นเดียวกันกับเขาทุกคนได้ตายในประเทศอียิปต์นั่นเอง แต่บรรดาญาติๆ ของโยเซฟก็ยังคงดำเนินชีวิตในประเทศอียิปต์หลังจากที่ความแห้งแล้งนั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว ตั้งแต่เวลาที่ชนชาติอิสราเอลมาอาศัยอยู่ในประเทศอียิปต์จนถึงจุดที่เรากำลังศึกษาเรื่องราวจากพระธรรมอพยพนี้เวลาได้ผ่านพ้นไป 350 ปีแล้ว ในระหว่างช่วงเวลาดังกล่าวลูกหลานของชนชาติอิสราเอลก็ทวีคูณขึ้นในประเทศอียิปต์ ประชากรเหล่านี้ได้เพิ่มขึ้นจาก 70 คนจนเกือบ 2 ล้าน 5 แสนคน อย่างไรก็ตามสถานการณ์ต่างๆ กำลังจะเปลี่ยนแปลงไป
อพยพ 1:8, 11 บัดนี้มีกษัตริย์องค์ใหม่ขึ้นครองราชสมบัติในประเทศอียิปต์ ซึ่งมิได้รู้จักกับโยเซฟ ... เหตุฉะนั้น เขาจึงตั้งนายงานให้เบียดเบียนคนอิสราเอลด้วยงานตรากตรำ และเขาทั้งหลายสร้างเมืองเก็บราชสมบัติของฟาโรห์ คือเมืองปิธมและเมืองราอัมเสส
ซาตานได้ชักนำให้กษัตริย์ฟาโรห์องค์ใหม่บังคับชาวยิวให้เป็นทาส ซาตานรู้ว่าพระเจ้าได้ทรงสัญญาว่าจะส่ง“พระผู้ช่วยให้รอด”มาให้จากเชื้อสายของชนชาติอิสราเอล ดังนั้นซาตานจึงปรารถนาที่จะทำลายชนชาติอิสราเอลเพื่อว่าจะไม่มี “พระผู้ช่วยให้รอด” กำเนิดมาเลย ซาตานยังได้ดลใจให้กษัตริย์ฟาโรห์บัญชาให้นางผดุงครรภ์ของพวกอิสราเอลฆ่าทารกเพศชายทุกคนที่เกิดมา แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะเชื่อฟังกษัตริย์ฟาโรห์และได้เลือกที่จะไว้วางใจพระเจ้า
มารดาชาวอิสราเอลคนหนึ่งพยายามที่จะปกป้องทารกเพศชายของนางไว้จากการถูกฆ่าโดยการแอบเอาลูกชายของนางไปใส่ไว้ในเรือน้อยลำหนึ่ง แล้วปล่อยให้ลอยออกไปตามแม่น้ำโดยได้อธิษฐานให้มีคนมาพบและปกป้องคุ้มครองเขาไว้ พระเจ้าทรงนำทางให้เรือน้อยลำนั้นไปหยุดอยู่ตรงที่ที่ธิดา กษัตริย์ฟาโรห์กำลังอาบนํ้า พระนางทอดพระเนตรเห็นทารกอยู่ภายในก็ทรงตัดสินพระทัยที่จะนำไปเลี้ยงดูเป็นบุตรของนางเอง พระนางทรงเรียกชื่อของทารกนั้นว่า โมเสส พระเจ้าทรงมีแผนการที่จะใช้โมเสสให้นำชนชาติอิสราเอลออกจากการเป็นทาส พระเจ้าทรงทราบว่าโมเสสจะปลอดภัยในวังของกษัตริย์ ฟาโรห์มากกว่าอยู่ที่อื่น พระองค์ยังทรงทราบอีกว่าโมเสสจะได้เรียนรู้หลายสิ่งที่จำเป็นสำหรับเขาที่จะต้องเรียนรู้เพื่อกระทำพันธกิจในฐานะผู้นำชนชาติของพระองค์ในอนาคต
โมเสสได้เติบโตขึ้นเป็นหนุ่ม วันหนึ่งโมเสสเห็นชาวอียิปต์คนหนึ่งกำลังทุบตีทาสชาวอิสราเอล โมเสสจึงฆ่าชายชาวอียิปต์ผู้นั้นและได้หนีไปหลบซ่อนในดินแดนอาระเบีย แล้วโมเสสก็เป็นคนเลี้ยงแกะอยู่ที่นั่น โมเสสได้แต่งงานและมีบุตรหลายคน ประมาณ 40 ปีต่อมาพระเจ้าก็ตรัสบอกให้โมเสสกลับไปยังประเทศอียิปต์และให้นำชนชาติอิสราเอลเข้าไปในแผ่นดินคานาอันซึ่งเป็นแผ่นดินที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้แก่อับราฮัม พระเจ้าทรงทราบว่ากษัตริย์ ฟาโรห์คงจะไม่ยอมปลดปล่อยทาสชาวอิสราเอลให้ได้รับอิสรภาพ กษัตริย์ ฟาโรห์จะต้องถูกโน้มน้าวจนเกิดความเชื่อมั่นว่าพระเจ้าองค์นี้ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ผู้ทรงพระชนม์อยู่ก่อนที่พระองค์จะยอมปลดปล่อยพวกเขาให้ได้รับอิสรภาพ
อพยพ 5:1, 2. ต่อมาภายหลังโมเสสกับอาโรนเข้าเฝ้าและทูลฟาโรห์ว่า “พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า‘จงปล่อยพลไพร่ของเราไป เพื่อเขาจะได้ทำการเลี้ยงนมัสการเราในถิ่นทุรกันดาร’” ฟาโรห์จึงตรัสว่า “พระเยโฮวาห์นั้นเป็นผู้ใดเล่าเราจึงจะต้องเชื่อฟังเสียงของพระองค์และปล่อยคนอิสราเอลไป เราไม่รู้จักพระเยโฮวาห์ ทั้งเราจะไม่ยอมปล่อยคนอิสราเอลไป”
กษัตริย์ฟาโรห์ทรงปฏิเสธที่จะเชื่อฟังพระบัญชาของพระเจ้าที่ตรัสผ่านมาทางโมเสส กษัตริย์ฟาโรห์ไม่รู้จักพระเจ้าผู้ทรงเป็น พระผู้สร้างแผ่นดินโลกทั้งสิ้น ชาวอียิปต์นมัสการสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาแทนที่จะนมัสการพระผู้สร้างนั้น คนเหล่านี้นมัสการแม่น้ำไนล์ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และสัตว์ต่างๆ นานาชนิด พวกเขามีพระมากมายและนมัสการ แม้แต่กษัตริย์ฟาโรห์เป็นพระองค์หนึ่งด้วย พระเจ้าทรงปรารถนาที่จะสอนกษัตริย์ฟาโรห์ให้รู้ว่ารูปเคารพทั้งหลายนั้นเป็น
พระเทียมเท็จและให้รู้ว่าพระเจ้าเที่ยงแท้ทรงเป็นพระผู้สร้างทุกสิ่งสารพัด ดังนั้นจึงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่สมควรจะได้รับการนมัสการแต่เพียงผู้เดียว
พระเจ้าทรงบันดาลให้เกิดภัยพิบัติ 9 อย่างขึ้นในประเทศอียิปต์เพื่อจะสำแดงให้ชาวอียิปต์ได้เห็นถึงฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ภัยพิบัติอย่างแรก พระเจ้าทรงเปลี่ยนน้ำในแม่น้ำไนล์ให้เป็นเลือด พระเจ้าได้ทรงกระทำให้พระองค์หนึ่งของพวกเขาเสื่อมเสียไป แล้ววงจรแห่งภัยพิบัติก็เริ่มต้นขึ้น นั่นคือการที่พระเจ้าทรงเตือนกษัตริย์ฟาโรห์ให้ยอมปลดปล่อยชนชาติอิสราเอลเป็นอิสระ กษัตริย์ฟาโรห์จะตรัสว่า ไม่! แล้วพระเจ้าก็จะทรงนำภัยพิบัติอย่างหนึ่งมาถึงชนชาติอียิปต์ โดยที่ภัยพิบัติแต่ละอย่างก็จะมุ่งไปที่พระของชนชาติอียิปต์องค์หนึ่งทีละองค์ ๆเรื่อยไป ภัยพิบัติลำดับถัดไปนั้น
พระเจ้าได้ส่งฝูงกบ แล้วก็ฝูงริ้นหลังจากนั้นก็ส่งฝูงเหลือบมายังประเทศอียิปต์ แล้วพระเจ้าก็ทรงบันดาลให้ฝูงม้า ฝูงวัว ฝูงแกะ ฝูงอูฐและฝูงลาของชาวอียิปต์เป็นโรคระบาดร้ายแรงและตายไป ต่อมาพระเจ้าทรงบันดาลให้ชาวอียิปต์ทุกคนเป็นฝีร้าย ภัยพิบัตินี้ตามมาด้วยพายุลูกเห็บที่ทำลายล้างอย่างรุนแรง แล้วก็มีภัยพิบัติจากฝูงตั๊กแตน จากนั้นก็เป็นช่วงเวลา 3 วันอันมืดมิดในทุกๆ ที่ ที่มีชาวอียิปต์อาศัยอยู่ กษัตริย์ฟาโรห์และชาวอียิปต์ไม่สามารถช่วยตัวเองให้รอดพ้นจากภัยพิบัติที่ร้ายแรงเหล่านี้ได้ บรรดาพระเทียมเท็จของเขาก็ไม่สามารถจะช่วยพวกเขาให้รอดพ้นได้เลย
ชาวอิสราเอลน่าจะได้รับความทุกข์ยากจากภัยพิบัติเหล่านี้ด้วย แต่เพราะความรักและพระเมตตาของพระเจ้าได้คุ้มครองพวกเขาไว้ ดังนั้นภัยพิบัติทั้งหลายจึงไม่มีผลกระทบต่อพวกอิสราเอลแม้ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ใกล้ ๆในประเทศเดียวกันนั่นเอง พระเจ้าได้ทรงคุ้มครองชาวอิสราเอลไว้จากภัยพิบัติทั้งหลายเพื่อว่ากษัตริย์ของประเทศอียิปต์จะตระหนักได้ว่าพระเจ้าของชนชาติอิสราเอลนั้นทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ผู้ทรงพระชนม์อยู่ พระเจ้าทรงทราบอยู่เสมอว่ากษัตริย์ฟาโรห์จะดื้อดึงและปฏิเสธที่จะปลดปล่อยชนชาติอิสราเอล พระเจ้าได้ทรงบอกแก่โมเสสว่าภายหลังจากที่ภัยพิบัติต่อไปนี้ผ่านพ้นไปแล้วกษัตริย์ ฟาโรห์จะยอมปล่อยชนชาติอิสราเอลให้เป็นอิสระในที่สุด
อพยพ 11:1 พระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า “เราจะนำภัยพิบัติมาสู่ฟาโรห์และอียิปต์อีกอย่างเดียว หลังจากนั้นเขาจะปล่อยพวกเจ้าไปจากที่นี่ เมื่อเขาให้พวกเจ้าไปคราวนี้ เขาจะขับไล่พวกเจ้าออกไปทีเดียว
พระเจ้าตรัสบอกโมเสสว่า ภัยพิบัติสุดท้ายจะนำความตายมาสู่บุตรหัวปีทุกคนทั้งในชนชาติอียิปต์และชนชาติอิสราเอลด้วย อย่างไรก็ตามพระเจ้าได้ทรงประทานคำสั่งไว้ เพื่อว่าผู้หนึ่งผู้ใดที่ปฏิบัติตามคำสั่ง เหล่านี้ก็จะได้รับการปกป้องคุ้มครองให้พ้นจากภัยพิบัติประการสุดท้ายดังกล่าว
อพยพ 12:3, 5 จงสั่งชุมนุมคนอิสราเอลทั้งหมดว่า ในวันที่สิบเดือนนี้ให้ผู้ชายทุกคนเตรียมลูกแกะครอบครัวละตัวตามเรือนบรรพบุรุษของตน.... ลูกแกะของเจ้าต้องปราศจากตำหนิ เป็นตัวผู้ อายุไม่เกินหนึ่งขวบ เจ้าจงเอามาจากฝูงแกะหรือฝูงแพะ
เหตุการณ์นี้จะสำคัญมากจนกระทั่งชาวอิสราเอลได้กำหนดปฏิทินของพวกเขาตามเหตุการณ์นี้ด้วย โดยที่เหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นวันเริ่มต้นปีใหม่ของชนชาติอิสราเอลนั่นเอง ซึ่งจะเป็นวันหยุดที่ทับซ้อนกันอยู่ คือวันขึ้นปีใหม่และวันประกาศอิสรภาพที่เฉลิมฉลองในวันเดียว กันนั้นเอง หัวหน้าครอบครัวของแต่ละครอบครัวจะต้องเลือกลูกแกะมาตัวหนึ่ง โดยที่ลูกแกะตัวนั้นจะต้องปราศจากตำหนิ คุณจำแกะตัวผู้ที่ถูกนำมาถวายเป็นเครื่องบูชาแทนอิสอัคได้ไหม? แกะตัวผู้ตัวนั้นเขาของมันเกี่ยวติดอยู่กับพุ่มไม้ ร่างกายของมันไม่ได้รับบาดเจ็บเลย ทำไมพุ่มไม้จึงถูกเกี่ยวติดเขาของมันไว้? นั่นก็เป็นเพราะว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้ที่สมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง ดังนั้นพระองค์จึงทรงเรียกร้องให้ใช้เครื่องบูชาที่สมบูรณ์ด้วย พระองค์ไม่เคยยอมรับเครื่องบูชาที่เป็นสัตว์ป่วยหรือมีบาดแผลเลย
อพยพ 12:6 จงเก็บไว้ให้ดีถึงวันที่สิบสี่เดือนนี้ แล้วในเย็นวันนั้นให้ที่ประชุมของคนอิสราเอลทั้งหมดฆ่าลูกแกะของเขา
ลูกแกะจะถูกนำมาเก็บจนกว่าจะถึงวันที่พระเจ้าได้กำหนดไว้ และจะถูกนำมาฆ่าเสีย ลูกแกะจะต้องตายโดยที่เลือดของมันจะต้องถูกปล่อยให้ไหลออกมา การกระทำเช่นนี้ก็เพื่อจะเตือนสติชาวอิสราเอลทั้งหลายว่าโทษทัณฑ์สำหรับความผิดบาปนั้นคือความตาย อิสอัคได้รับการช่วยให้รอดชีวิตโดยความตายของแกะตัวผู้ที่ปราศจากความผิดมาแล้ว บัดนี้ชนชาติอิสราเอลทั้งหลายก็จะได้รับการช่วยให้รอดโดยความตายของลูกแกะที่ปราศจากความผิดด้วยเช่นกัน
อพยพ 12:7 แล้วเอาเลือดทาที่ไม้วงกบประตูทั้งสองข้าง และไม้ข้างบน ณ เรือนที่เขาเลี้ยงกันนั้นด้วย
พระเจ้าได้ตรัสสั่งให้ชาวอิสราเอลใช้อ่างรองเลือดของมันไว้ พวกเขาจะต้องเอากิ่งไม้เล็กๆ จุ่มลงไปในเลือดแล้วนำไปทาที่เสาประตูทั้ง 2 ข้าง และทาเหนือประตูบ้านที่พวกเขาจะกินลูกแกะในคืนนั้นด้วย เลือดของลูกแกะที่ทาไว้บนเสาประตูจะช่วยชีวิตบุตรหัวปีให้รอดพ้นจากภัยพิบัตินั้น พระเจ้าทรงสัญญาว่าเมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นเลือดบนบ้านใดพระองค์จะเสด็จผ่านบ้านนั้นโดยไม่ปล่อยให้ภัยพิบัติเข้าไปสังหารบุตรหัวปีของคนในบ้านนั้น
อพยพ 12:29. ต่อมาในเวลาเที่ยงคืน พระเยโฮวาห์ทรงประหารบุตรหัวปีทุกคนในประเทศอียิปต์ ตั้งแต่พระราชบุตรหัวปีของฟาโรห์ผู้ประทับบนพระที่นั่งจนถึงบุตรหัวปีของเชลยที่อยู่ในคุกใต้ดิน ทั้งลูกหัวปีของสัตว์เลี้ยงทุกตัว
ทุกบ้านที่ไม่มีเลือดทาไว้ที่ประตูบุตรหัวปีในบ้านนั้นก็ล้มตายลง แต่ทุกบ้านที่มีเลือดทาไว้บุตรหัวปีก็มีชีวิตอยู่ต่อไป ลองจินตนาการดูว่าถ้าทุกครอบครัวในหมู่บ้านของคุณมีคนตาย หรือถ้าทุกครอบครัวในอำเภอของคุณมีคนตาย ลองคิดถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในกรณีที่ทุกครอบครัวในจังหวัดของคุณมีคนตาย แต่พระคัมภีร์ไม่ได้กล่าวไว้เช่นนั้น
พระคัมภีร์ได้กล่าวไว้อย่างน่ากลัวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ทีเดียว คือได้บันทึกไว้ว่าครอบครัวของชาวอียิปต์ทุกครอบครัวทั่วประเทศมีคนตาย ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าถ้าปู่ พ่อ และลูกชายเป็นบุตรหัวปีด้วยกันทุกคนและอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันทั้ง 3 คนก็คงจะตายไปพร้อมๆ กันเลยทีเดียว คุณสามารถจะจินตนาการถึงความหายนะเช่นนี้ได้ไหมว่าจะมีลักษณะรุนแรงเพียงใด?
เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นภาพว่า พระผู้ช่วยให้รอด ที่จะเสด็จมานั้นจะทรงช่วยมนุษย์ให้รอดพ้นจากการพิพากษาและการถูกแยกจากพระเจ้าได้อย่างไร เหตุการณ์ดังกล่าวยังเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นเทศกาลปัสกาอีกด้วย เพราะว่าพระเจ้าได้เสด็จผ่านแต่ละบ้านที่มีเลือดทาอยู่ไป และทุกคนได้รับความปลอดภัย
จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีคนใดคนหนึ่งกล่าวว่า“นี่เป็นเรื่องโง่ชัดๆ ที่จะให้ฆ่าลูกแกะที่ดีที่สุดตัวหนึ่งของฉัน ฉันมีแกะพิการแก่ๆ ตัวหนึ่ง ซึ่งมันก็คงจะใช้ได้เหมือนกัน” หรือถ้ามีอีกคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า“ไม่มีทางหรอกที่จะให้ฉันเอาเลือดมาทาเสาประตูให้เลอะเทอะเปรอะเปื้อนแบบนั้น ฉันจะเอาเลือดไปเททิ้งที่พื้นนอกประตูหลังบ้านนั่นแหละ” พระเจ้าจะเสด็จผ่านบ้านนั้นไปหรือเปล่า? เปล่าเลย! คนเหล่านี้อาจจะกระทำอะไรลงไปด้วยความตั้งใจที่ดี แต่นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของพระเจ้า พวกเขาก็คงจะกระทำตามใจปรารถนาของตนเองเหมือนอย่างคาอินและเอซาว บุตรหัวปีของเขาย่อมจะต้องตายอย่างแน่นอนเพราะเขาปฏิเสธที่จะเชื่อพระเจ้า
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนอียิปต์คนหนึ่งเดินผ่านมาและได้ยินถึงสิ่งที่ พระเจ้าจะทรงกระทำและพูดขึ้นว่า“พระเจ้าทั้งหลายของเราเป็นพระเทียมเท็จ ชนชาติอิสราเอลนมัสการพระเจ้าเที่ยงแท้ที่มีเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น ฉันอยากจะให้พระเจ้าองค์นั้นมาเป็นพระเจ้าของฉัน” และยังได้ปฏิบัติตามคำสั่งของพระเจ้า ถ้าเป็นเช่นนั้นพระเจ้าจะเสด็จผ่านบ้านของเขาไปและเขาจะรอดพ้นจากภัยพิบัตินี้หรือเปล่า? รอดได้แน่นอน เพราะเขาเชื่อพระเจ้าแล้ว
โอรสองค์หัวปีของกษัตริย์ฟาโรห์ได้สิ้นพระชนม์ในภัยพิบัติครั้งนี้ กษัตริย์ฟาโรห์จึงเรียกโมเสสให้มาเข้าเฝ้าในคืนนั้นเอง และได้ตรัสสั่งให้โมเสสนำชนชาติอิสราเอลออกไปจากประเทศอียิปต์ คนเหล่านั้นทุกคนที่ต่อต้าน พระเจ้าจะพบความพ่ายแพ้ อาดัมและเอวาพบกับความพ่ายแพ้ คาอินก็พ่ายแพ้ คนในสมัยโนอาห์และชาวเมืองโสโดมและเมือง
โกโมราห์ก็พ่ายแพ้เช่นเดียวกัน บัดนี้ชนชาติอียิปต์พบความพ่ายแพ้แล้ว มนุษย์ทุกคนมีทางเลือกของตนเอง แต่คนเหล่านั้นทุกคนที่ได้กล่าวถึงนี้ตัดสินใจเลือกทางที่ผิด พระเจ้าทรงอวยพรผู้ที่เชื่อพระองค์และเฝ้ารอคอย“พระผู้ช่วยให้รอด”ที่จะเสด็จมานั้น
พระเจ้าได้ทรงใช้ให้โมเสสนำชนชาติอิสราเอลออกจากประเทศอียิปต์ในคืนนั้นเอง พระเจ้าทรงเริ่มที่จะนำพวกเขากลับไปยังแผ่นดินที่พระองค์ทรงสัญญาไว้แก่อับราฮัม พระเจ้าทรงใช้เสาเมฆในเวลากลางวัน และเสาไฟในเวลากลางคืน เพื่อนำทางชนชาติของพระองค์ พวกเขาคงจะเดินหลงทางแน่ๆ ถ้าพระเจ้าไม่ได้นำทางพวกเขา พระองค์ทรงรักชนชาติอิสราเอล ดังนั้นพระองค์จึงทรงดูแลพวกเขาอย่างดี พระเจ้าทรงคุ้มครองชนชาติอิสราเอลด้วยเหตุผล 2 ประการ ประการแรกก็เพื่อว่า“พระผู้ช่วยให้รอด”ที่ยิ่งใหญ่นั้นจะสามารถกำเนิดมาในโลกได้ ประการที่สอง พระองค์ได้ทรงฝากพระวจนะของพระองค์ไว้ในความดูแลของชนชาติอิสราเอลเพื่อจะให้พวกเขามอบพระวจนะเหล่านั้นให้แก่ชาวโลกต่อไป
คำถามบทที่ 11
1. ใครใช้คนอิสราเอลอย่างทาส
ก) ฟาโรห์
ข) โมเสส
ค) พระเจ้า
2. ใครชักจูงกษัตริย์ฟาโรห์ให้ทำแผนการชั่วร้าย
ก) ซาตาน
ข) พระเจ้า
ค) โมเสส
3. ทำไมซาตานจึงต้องการทำลายคนอิสราเอล
ก) เพราะซาตานชอบคนอียิปต์มากกว่า
ข) เพราะซาตานจะได้เอาเงินของคนอิสราเอล
ค) เพราะพระผู้ช่วยให้รอดจะเกิดขึ้นมาไม่ได้
4. ทำไมพระเจ้าจึงทรงให้พระราชธิดาของฟาโรห์รับโมเสสไว้
เป็นลูกเลี้ยง
ก) เพราะพระเจ้าทรงวางแผนที่จะส่งโมเสสไปยังชน ชาติอิสราเอล
ข) เพราะพระเจ้าทรงรักโมเสสมากกว่าคนอื่น
ค) เพราะพระเจ้าทรงวางแผนที่จะให้โมเสสเป็น กษัตริย์ของอียิปต์
5. พระเจ้าทรงสำแดงฤทธิ์อำนาจในอียิปต์อย่างไร
ก) ทรงฆ่าคนอียิปต์ทุกคน
ข) ทรงทำให้เกิดภัยพิบัติในอียิปต์
ค) ทรงทำให้ฟาโรห์ป่วยและตาย
6. ภัยภิบัติอย่างสุดท้ายที่พระเจ้าทรงทำให้เกิดขึ้นในอียิปต์คือ
อะไร
ก) มีกบมากมาย
ข) ทรงเปลี่ยนน้ำให้เป็นเลือด
ค) ทรงทำให้ลูกชายหัวปีทั้งหมดตาย
7. พระเจ้าทรงบอกให้คนทั้งหลายปกป้องลูกหัวปีของพวกเขา
อย่างไร
ก) ทรงให้พวกเขาย้ายไปคาอัน
ข) ทรงให้พวกเขาซื้อเครื่องรางของขลัง
ค) ทรงให้พวกเขาฆ่าแกะแล้วเอาเลือดมาทาที่ประตู