คุณเคยคิดสงสัยไหมว่าทำไมจึงมีภาษาต่าง ๆมากมายในโลก หรือเคยสงสัยไหมว่าประเทศต่าง ๆในโลกมาจากไหน  อันที่จริงพระเจ้าได้ ตรัส บอกแก่เราแล้วว่าสิ่งต่าง ๆเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร นอกจากนี้พระองค์ยังได้ทรงบันทึกเรื่องราวเหล่านี้ไว้ในพระคัมภีร์เพื่อเราจะสามารถทราบคำตอบได้อย่างชัดเจน

หลายปีผ่านไปนับตั้งแต่เหตุการณ์ที่พระเจ้าได้ทรงช่วยโนอาห์ ภรรยาของโนอาห์ บุตรชายทั้ง 3 คนและภรรยาของบุตรชายให้พ้นจากน้ำท่วมครั้งใหญ่นั้นมนุษย์ก็ทวีมากขึ้นบนแผ่นดินโลกอีกครั้ง  ลูกหลานส่วนใหญ่ของโนอาห์พากันลืมการพิพากษาอย่างรุนแรงของพระเจ้าในครั้งนั้นเสีย  พวกเขาจงใจที่จะเพิกเฉยต่อพระเจ้าและไม่ปรารถนาที่จะเชื่อพระองค์เหมือนอย่างที่อาแบล เสทและโนอาห์ได้เชื่อนั้น พวกเขาพากันคิดเหมือนซาตาน มนุษย์อยากจะเป็นใหญ่และยกย่องเชิดชูตัวเอง  พวกเขาไม่ใส่ใจที่จะรู้จัก นมัสการและไว้วางใจพระเจ้า  แทนที่จะทำเช่นนั้นพวกเขากลับทำรูปจำลองของมนุษย์ สัตว์ นก และงู แล้วนมัสการสิ่งเหล่านี้แทนพระเจ้า

ซาตานได้ชักนำบรรพบุรุษของเราให้กบฏขัดขืนต่อพระเจ้า มันต้องการให้มนุษย์นมัสการพระเจ้าเทียมเท็จทั้งหลายนั้น  ในปัจจุบันชุมชนหลายแห่งยังคงนมัสการดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวต่าง ๆ หรือแม้แต่สัตว์นานาชนิด  ซาตานรู้จุดอ่อนของวัฒนธรรมแต่ละแห่งและยังรู้ว่าจะต้องโกหกอย่างไรจึงจะเป็นที่ยอมรับได้ตามสภาพของวัฒนธรรมนั้น ๆ   การนมัสการเกี่ยวข้องกับการทุ่มเทความคิด จิตใจ และทรัพยากรหรือสิ่งที่เรามีอยู่เพื่อจะปรนนิบัติรับใช้วัตถุหรือสิ่งที่เรานมัสการนั้น  คำว่า “นมัสการ” มาจากคำว่า

“มีคุณค่า”     พระเจ้าและมีเพียงพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้นที่มีคุณค่าสมควรที่จะได้รับ   กานมัสการและเทิดทูนบูชาจากเรา  ซาตานไม่แยแสสนใจหรอกว่าเราจะนมัสการอะไรตราบเท่าที่เราไม่ได้นมัสการพระเจ้าเที่ยงแท้ผู้ทรงพระชนม์อยู่แต่เพียงผู้เดียว

ปฐมกาล 11:1-2   ทั่วแผ่นดินโลกมีภาษาเดียวและมีสำเนียงเดียวกัน และต่อมาเมื่อพวกเขาเดินทางจากทิศตะวันออกก็พบที่ราบในแผ่นดินชินาร์และพวกเขาอาศัยอยู่ที่นั่น 

ขณะนั้นทั่วทั้งโลกมีภาษาเพียงภาษาเดียว  เราไม่ทราบว่ามนุษย์มีจำนวนเท่าไรบนแผ่นดินโลกในเวลานั้น แต่พวกเขาทุกคนอาศัยอยู่บนที่ราบในแผ่นดินชินาร์ ซึ่งก็คือประเทศอิรักในปัจจุบันนั่นเอง

 ปฐมกาล 11 :3-4   แล้วพวกเขาต่างคนต่างก็พูดกันว่า “มาเถิด ให้พวกเราทำอิฐและเผามันให้แข็ง” พวกเขาจึงมีอิฐใช้ต่างหินและมียางมะตอยใช้ต่างปูนสอ   เขาทั้งหลายพูดว่า “มาเถิด ให้พวกเราสร้างเมืองขึ้นเมืองหนึ่งและก่อหอให้ยอดของมันไปถึงฟ้าสวรรค์ และให้พวกเราสร้างชื่อเสียงของพวกเราไว้ เพื่อว่าพวกเราจะไม่กระจัดกระจายไปทั่วพื้นแผ่นดินโลก” 

มนุษย์ได้รวมตัวกันเพื่อจะสร้างหอบาเบลเพราะพวกเขาไม่อยากจะกระจัดกระจายไปทั่วแผ่นดินโลก   มนุษย์จงใจที่จะไม่เชื่อฟังพระบัญชาที่พระเจ้าได้ตรัสสั่งไว้แก่โนอาห์   คนเหล่านี้คิดถึงแต่ตัวเองเท่านั้น  พวกเขาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและสนใจแต่จะยกย่องเชิดชูชื่อเสียงของตนเอง   ทำไมพวกเขาจึงโง่เขลาอะไรเช่นนี้  บรรพบุรุษของเขาต้องตายในน้ำท่วมทั้งสิ้น แต่พวกเขากลับไม่ได้เรียนรู้ข้อผิดพลาดของคนเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย   เมืองทั้งเมืองมีประชากรทั่วทั้งแผ่นดินโลกมารวมตัวกันเพื่อจะทำการกบฏขัดขืนต่อพระเจ้า   ปัจจุบันนี้เมืองต่าง ๆในโลกมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นมากมาย ทั้งอาชญากรรม การคอรัปชั่น การไร้ศีลธรรม การไม่เชื่อฟัง ฯลฯ   และนี่คือจุดกำเนิดที่สิ่งต่าง ๆเหล่านี้ได้เริ่มต้นขึ้นภายหลังน้ำท่วมครั้งใหญ่นั้น   คุณคิดว่าใครมีอิทธิพลที่สามารถทำให้มนุษย์กบฏขัดขืนต่อพระเจ้าได้ถึงเพียงนี้  แน่ล่ะ! มันคือซาตานนั่นเอง  แล้วคุณคิดว่าทำไมซาตานจึงต้องการที่จะทำให้มนุษย์กบฏขัดขืนต่อพระเจ้า  คำตอบก็คือเพื่อว่าพระเจ้าจะไม่สามารถที่จะส่ง“พระผู้ช่วยให้รอด”เข้ามาในโลกได้

ปฐมกาล 11:5-6   และพระเยโฮวาห์เสด็จลงมาทอดพระเนตรเมืองและหอนั้นซึ่งบุตรทั้งหลายของมนุษย์ได้ก่อสร้างขึ้น  แล้วพระเยโฮวาห์ตรัสว่า“ดูเถิด คนเหล่านี้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และพวกเขาทั้งปวงมีภาษาเดียว พวกเขาเริ่มทำเช่นนี้แล้ว ประเดี๋ยวจะไม่มีอะไรหยุดยั้งพวกเขาได้ในสิ่งที่พวกเขาคิดจะทำ ....”

พระเจ้าทรงสนพระทัยในมนุษย์ที่กบฏขัดขืนเหล่านี้  พระองค์ทรงทราบความคิดของเขาและทรงทราบว่าพวกเขาวางแผนจะทำอะไร  พระองค์ทรงทราบว่าถ้ามนุษย์ยังคงพูดภาษาเดียวกันพวกเขาก็จะสร้างปัญหามากกว่านี้และจะกระทำความชั่วเพิ่มมากขึ้นด้วยการกบฏขัดขืนมากกว่านี้อีก  พระเจ้าทรงห่วงใยในสิ่งที่พวกเขาได้กระทำลงไป  พระเจ้าทรงสถิตอยู่ทุกหนทุกแห่งตลอดเวลาและทรงรอบรู้ทุกสิ่งสารพัด พระองค์ทรงทราบทุกสิ่งเกี่ยวกับตัวเราด้วย  เราไม่สามารถจะเก็บอะไรเป็นความลับจากพระเจ้าได้เลย  พระองค์ทรงทราบทุกสิ่งที่เราได้คิด ได้พูด และได้กระทำลงไป

  เกิดอะไรขึ้นกับซาตานเมื่อมันได้กบฏขัดขืนต่อ

พระเจ้า  ใช่แล้ว! มันได้หลงไปจากทางของพระเจ้า  เกิดอะไรขึ้นกับอาดัมและเอวาเมื่อคนทั้งสองไม่เชื่อฟังพระเจ้า  พวกเขาก็หลงหายเช่นกัน!  เกิดอะไรขึ้นเมื่อคาอินปฏิเสธทางของ

พระเจ้า เขาก็หลงหาย!  เกิดอะไรขึ้นเมื่อมนุษย์ในสมัยของ

โนอาห์กบฏขัดขืนต่อพระเจ้า พวกเขาก็หลงหายไปด้วย!  แล้วฝูงชนที่กำลังสร้างหอคอยล่ะคุณคิดว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะได้รับชัยชนะหรือเปล่า   ไม่มีทางหรอก!

ปฐมกาล 11:7  มาเถิด ให้พวกเราลงไปและทำให้ภาษาของเขาวุ่นวายที่นั่น เพื่อไม่ให้พวกเขาพูดเข้าใจกันได้   

ที่จริงแล้วปัญหาไม่ได้อยู่ที่มนุษย์พูดภาษาเดียวกัน แต่อยู่ตรงที่พวกเขาไม่เชื่อฟังพระเจ้าการที่มนุษย์พูดภาษาเดียวกันย่อมเป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้การกบฏขัดขืนขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็วและการรวมตัวกันเพื่อก่อการกบฏขัดขืนก็ง่ายขึ้นด้วย ซึ่งนี่เป็นลักษณะเดียวกับสถานการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในเรือนจำต่าง ๆในปัจจุบัน  กลุ่มนักโทษชั้นเลวที่สุดจะถูกนำตัวไปแยกขังไว้ในคุกเดี่ยวเพื่อป้องกันไม่ให้พฤติกรรมที่ชั่วร้ายกว่าแพร่กระจายไปสู่นักโทษทั้งหมด   พระเจ้าทรงตัดสินพระทัยที่จะบันดาลให้ภาษาของพวกเขาสับสนวุ่นวายไปก่อนที่การกบฏขัดขืนจะลุกลามใหญ่โตมากไปกว่านี้

ปฐมกาล 11: 8-9   ดังนั้นพระเยโฮวาห์จึงทรงทำให้เขากระจัดกระจายจากที่นั่นไปทั่วพื้นแผ่นดิน พวกเขาก็เลิกสร้างเมืองนั้น  เหตุฉะนั้นจึงเรียกชื่อเมืองนั้นว่า บาเบล เพราะว่าที่นั่นพระเยโฮวาห์ทรงทำให้ภาษาของทั่วโลกวุ่นวาย และ ณ จากที่นั่นพระเยโฮวาห์ได้ทรงทำให้พวกเขากระจัดกระจายออกไปทั่วพื้นแผ่นดินโลก 

พระเจ้าทรงบันดาลให้ภาษาของเขาซึ่งในขณะนั้นมีอยู่เพียงภาษาเดียววุ่นวายไปโดยการทำให้มีภาษาใหม่ ๆเกิดขึ้นอีกมากมาย  ทันใดนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถจะเข้าใจกันและกันได้  พวกเขาจึงถูกบังคับให้หยุดการก่อสร้างไปโดยปริยายเพราะไม่สามารถจะติดต่อสื่อสารกันได้  การขาดการติดต่อสื่อสารได้ขัดขวางไม่ให้เกิดความสนิทสนทกลมเกลียวกันในเมืองนั้น  ดังนั้นพวกเขาจึงไปรวมตัวกันตามครอบครัวของตนเองและแยกจากไปในลักษณะของการอพยพเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ บ้างก็เดินเท้า บ้างก็ลงเรือ โดยได้กระจัดกระจายไปทั่วโลก   และในช่วงเวลาขณะที่มีการอพยพนั้นก็มีการพัฒนาลักษณะเฉพาะของประเทศต่าง ๆขึ้น   นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ภาษา รวมทั้งวัฒนธรรมและประเทศซึ่งเป็นผลที่เกิดขึ้นภายหลังได้ถือกำเนิดขึ้น  บรรพบุรุษทุกคนของคุณต่างก็เคยอยู่ที่หอบาเบลด้วยกันทั้งสิ้น  และนี่คือจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์แห่งครอบครัวของคุณซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของลักษณะประชาชาติหรือกลุ่มภาษาแต่ละกลุ่ม   พระเจ้าผู้ทรงสร้างโลกทั้งโลก ผู้ทรงสร้างอาดัมและเอวา และผู้ทรงบันดาลให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ก็ทรงเป็นพระเจ้าองค์เดียวกับที่ได้บันดาลให้เกิดภาษาต่าง ๆและวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ของโลก  พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของมนุษย์ทั้งปวงและวัฒนธรรมต่าง ๆทั้งสิ้น  

บรรพบุรุษของเราได้หันเสียจากพระเจ้าและไปติดตามแนวความคิดที่ซาตานได้ใส่ให้แก่พวกเขา  มีกลุ่มคนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่ยังคงนมัสการพระเจ้าเที่ยงแท้ผู้ทรง

พระชนม์อยู่ในขณะที่คนส่วนใหญ่หันเสียจากการติดตามพระองค์   บัดนี้ เมื่อประชาชาติกระจัดกระจายไปทั่วแผ่นดินโลกแล้วคุณคิดว่าพระเจ้าจะทรงเลือกใครให้มาเริ่มกระบวนการที่จะบอกกล่าวให้ประชาชาติต่าง ๆทั่วโลกได้ทราบถึง“พระผู้ช่วยให้รอด”ที่จะเสด็จมานั้น   อย่างไรก็ตาม แม้จะมีปัญหาและอุปสรรคมากมาย ในที่สุดแล้ว“พระผู้ช่วยให้รอด”ก็จะถูกส่งลงมาเพื่อประชาชาติต่าง ๆทั่วโลก   เราจะมาศึกษาค้นหากันอีกในบทเรียนต่อไป

คำถามบทที่ 6

1. ผู้คนเริ่มก่อสร้างอะไร

ก) วัด      

ข) โบสถ์          

ค) เรือ           

ง) หอ

2. พวกเขาทำอย่างนั้นทำไม

ก) เพื่อนมัสการพระเจ้า

ข) เพื่อปกป้องเขาจากศัตรู

ค) พวกเขาไม่อยากกระจัดกระจายไปทั่วโลก

3. พระเจ้าทรงรู้ถึงแผนการที่พวกเขาจะทำหรือไม่ 

ก) ทรงรู้      

ข) ทรงไม่รู้

4. พระเจ้าทรงตอบโต้การกระทำนั้นอย่างไร

ก) ทรงทำลายหอนั้น

ข) ทรงทำให้น้ำท่วมอีกครั้ง

ค) ทรงทำให้พวกเขาพูดภาษาใหม่หลายภาษา

5. ผลที่เกิดขึ้นคืออะไร

ก) หลายคนตาย

ข) หลายคนได้มารับเชื่อพระเจ้า

ค) พวกเขาอพยพและกระจัดกระจายไปทั่วโลก