ถ้าหากนักศึกษาคนใดๆอยากได้รับใบประกาศเณียบัตรจากสหรัฐฯ เขาต้องส่งคำตอบมาถึงเราและถ้าผ่านเราก็จะส่งใบประกาศเณียบัตรไปให้เขา ขอส่งคำตอบมายังที่: biblestudythailand@gmail.com หรือ Facebook: www.facebook.com/ThaiBibleStudy หรือ Line ID: natwill78

เรียนพระคัมภีร์จากยุคสร้างโลกถึงชีวิตพระเยซูคริสต์

บทที่ 5 – น้ำท่วมในสมัยโนอาห์


ในปัจจุบัน มีตำนานโบราณเกี่ยวกับน้ำท่วมอย่างน้อย ๆประมาณ 213 เรื่องที่ได้ถูกบันทึกไว้โดยกลุ่มคนจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งสามารถจำแนกออกได้เป็น 31 เรื่องจากทวีปยุโรป  17 เรื่องจากทวีปแอฟริกาและตะวันออกกลาง  37 เรื่องจากทวีปออสเตรเลียและหมู่เกาะทะเลใต้  23 เรื่องจากทวีปเอเชีย  59 เรื่องจากชนเผ่าอินเดียนในทวีปอเมริกาเหนือ และอีก 46 เรื่องจากทวีปอเมริกากลางและอเมริกาใต้

ตำนานเหล่านี้ทั้งหมดต่างก็มีความสอดคล้องกันในประเด็นสำคัญ ๆ 3 ประเด็นด้วยกัน และส่วนใหญ่มีความสอดคล้องกันในประเด็นที่ 4 ด้วย

ประเด็นที่ 1 ก็คือ น้ำได้ท่วมทำลายล้างมนุษย์และสัตว์ต่าง ๆ
                    ทั่วโลก

ประเด็นที่ 2 คือ มีการจัดเตรียมเรือเพื่อใช้เป็นวิธีที่จะหนีจาก
                    น้ำท่วม

ประเด็นที่ 3 คือ มนุษยชาติจำนวนเล็กน้อยเท่านั้นที่ได้รับการ
                    ช่วยให้รอดเพื่อจะสามารถรักษาเผ่าพันธุ์มนุษย์
                    ไว้ได้

ประเด็นที่ 4 สาเหตุของความหายนะเกิดจากผลของความชั่ว
                    ร้ายเลวทรามของมนุษย์นั่นเอง

เราจะมาศึกษาถึงเรื่องราวในพระคัมภีร์เกี่ยวกับน้ำท่วมโลกกันในบทเรียนนี้   ในบทเรียนที่ผ่านมา เราได้เรียนรู้กันแล้วว่าพระเจ้าทรงประทานบุตรอีกคนหนึ่งแก่อาดัมและ
เอวา ซึ่งมีชื่อว่า เสท   เสทก็ยังคงมีบุตรซึ่งมีบุตรต่อ ๆกันมาเรื่อย ๆอีกหลายชั่วอายุคน   ลูกหลานของเสทเชื่อพระเจ้าและเฝ้ารอคอย“พระผู้ช่วยให้รอด”ที่จะเสด็จมาตามที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาในสวนเอเดน   โนอาห์ ซึ่งเป็นเชื้อสายของเสทมีชีวิตเมื่อประมาณ 1,500 ปีหลังจากที่พระเจ้าได้ทรงสร้างอาดัม   โนอาห์มีบุตรชาย 3 คนคือ เชม ฮาม และยาเฟท    ในสมัยของโนอาห์นั้นมีประชากรอาศัยอยู่บนแผ่นดินโลกเป็นอันมาก ซึ่งอาจจะเป็นได้ว่า มีจำนวนมากถึง 3 พันล้านคนเลยทีเดียวโดยที่ส่วนใหญ่สนใจที่จะประพฤติตามทางของคาอินเท่านั้น 

ปฐมกาล 6:5   และพระเจ้าทรงเห็นว่าความชั่วของมนุษย์มีมากบนแผ่นดินโลก และเจตนาทุกอย่างแห่งความคิดทั้งหลายในใจของเขาล้วนแต่ชั่วร้ายอย่างเดียวเสมอไป 

มนุษย์ส่วนใหญ่เลวทราม และความคิดของเขาก็ชั่วร้ายเสมอไป  

ปฐมกาล 6:11,12  ดังนั้นมนุษย์โลกจึงชั่วช้าต่อพระพักตร์

พระเจ้า และแผ่นดินโลกก็เต็มไปด้วยความอำมหิต   พระเจ้าทอดพระเนตรบนแผ่นดินโลก และดูเถิด แผ่นดินโลกก็ชั่วช้า เพราะว่าบรรดาเนื้อหนังได้กระทำการชั่วช้าบนแผ่นดินโลก   

มนุษย์ส่วนมากประพฤติตามทางของคาอิน   พวกเขาไม่มีข้อแก้ตัวสำหรับการประพฤติของตนเอง   พระเจ้าทรงใช้โนอาห์เพื่อไปบอกมนุษย์ให้หันเสียจากความบาปและวางใจในพระเจ้า แต่มนุษย์ปฏิเสธที่จะฟังโนอาห์  พวกเขาทั้งเย่อหยิ่ง สนใจแต่ตัวเอง และชอบพูดจาโอ้อวด   มนุษย์มีแต่ความโลภซึ่งหมายถึงความต้องการที่อยากจะได้ของของผู้อื่น  พวกเขาอิจฉาริษยาและเกลียดชังผู้อื่น  พวกเขาโต้เถียงและต่อสู้กันตลอดเวลา  พวกเขาโหดร้ายต่อกันและกัน  พวกเขาซุบซิบนินทาและพูดให้ร้ายลับหลังกันอยู่เสมอ  พวกเขาไม่มีการเหนี่ยวรั้งความรู้สึกทางเพศเลย  แผ่นดินโลกก็ชั่วช้าและเต็มไปด้วยความอำมหิต   คุณคิดว่าใครอยู่เบื้องหลังความชั่วร้ายทั้งสิ้นนี้  คุณคิดว่าใครต้องการที่ทำให้มนุษย์ชั่วช้าเลวทรามและทำลายมนุษย์เสียเพื่อว่า “พระผู้ช่วยให้รอด”จะไม่สามารถกำเนิดมาได้?   ชื่อของมันคือซาตานนั่นเอง  

พระเจ้าทรงทอดพระเนตรเห็นความบาปทั้งสิ้นของเขา แม้ว่าพวกเขาจะพยายามปิดบังซ่อนเร้นการโกหก การคบชู้ การลักขโมย และการฆาตกรรมไว้จากคนอื่น ๆแต่ไม่มีแม้สักสิ่งเดียวในบรรดาสิ่งต่าง ๆเหล่านี้ที่จะถูกปิดบังซ่อนเร้นจากพระเจ้าได้  พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นทุกสิ่ง  ไม่มีใครสามารถปิดบังซ่อนเร้นจากพระเจ้าได้  พระองค์ทรงทราบความคิดของเราและได้ยินถ้อยคำทุกคำที่เราพูดออกไป และทรงทราบความมุ่งหมายซึ่งอยู่ภายในจิตใจของเราด้วย  

ปฐมกาล 6:3   พระเยโฮวาห์ตรัสว่า “วิญญาณของเราจะไม่วิงวอนกับมนุษย์ตลอดไป เพราะเขาเป็นแต่เนื้อหนัง อายุของเขาจะเพียงแค่ร้อยยี่สิบปี”   

พระเจ้าคงจะไม่ยอมอดกลั้นให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ตลอดไปเป็นนิตย์  พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นความไม่เชื่อฟังและทรงเกลียดชังความไม่เชื่อฟังของคนเหล่านี้ แต่พระองค์ก็ยังรักและปรารถนาที่จะยอมรับพวกเขา   อย่างไรก็ตาม การที่จะเป็นที่พอพระทัยได้นั้นพวกเขาจะต้องยอมรับว่าพวกเขาได้กระทำความผิดและหันมาเชื่อพระเจ้า   การเปลี่ยนแปลงภายในจะแสดงออกมาเป็นพฤติกรรมภายนอก  ออกมาให้เห็นโดยการมาหาพระเจ้าตามวิธีการที่พระเจ้าทรงบัญชาแก่อาดัมและเอวา ซึ่งก็คือการถวายลูกแกะเป็นเครื่องบูชาเหมือนที่  อาแบลได้กระทำนั่นเอง  พระเจ้าตรัสว่าพระองค์จะทรงประทานเวลาให้แก่มนุษย์ 120 ปีเพื่อจะเปลี่ยนแปลงความคิดและการประพฤติของตนเอง  มิฉะนั้นแล้วพระองค์ก็จะทรงพิพากษาพวกเขา  

ปฐมกาล 6:6-7    พระเยโฮวาห์ทรงโทมนัสที่พระองค์ได้ทรงสร้างมนุษย์บนแผ่นดินโลก และกระทำให้พระองค์ทรงเศร้าโศกภายในพระทัยของพระองค์   พระเยโฮวาห์ตรัสว่า “เราจะทำลายมนุษย์ที่เราได้สร้างมาจากพื้นแผ่นดินโลก ทั้งมนุษย์และสัตว์และสัตว์เลื้อยคลานและนกในอากาศ เพราะว่าเราเสียใจที่เราได้สร้างพวกเขามา”

พระเจ้าทรงเศร้าพระทัยกับการประพฤติและท่าทีของมนุษย์  พวกเขาได้กระทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงจนพระเจ้าไม่สามารถจะอดกลั้นพระทัยได้อีกต่อไป  มนุษย์ได้กระทำการชั่วช้าอย่างยิ่งพระเจ้าจึงทรงตัดสินพระทัยที่จะทำลายมนุษย์เสีย และเริ่มต้นใหม่กับโนอาห์และครอบครัวของเขา  

ปฐมกาล 6:8-10  แต่โนอาห์เป็นที่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์   ต่อไปนี้คือพงศ์พันธุ์ของโนอาห์ โนอาห์เป็นคนชอบธรรมและรอบคอบในสมัยของท่าน และโนอาห์ดำเนินกับพระเจ้า  โนอาห์ให้กำเนิดบุตรชายสามคน ชื่อเชม ฮาม และยาเฟท   

โนอาห์เกิดมาโดยถูกแยกจากพระเจ้าและอยู่ภายใต้การครอบงำของซาตานเช่นเดียวกับลูกหลานของอาดัมทุกคน  โนอาห์ไม่สมควรที่จะได้รับการช่วยให้รอดจากพระเจ้า  

โนอาห์สมควรที่จะถูกลงโทษเช่นเดียวกัน แต่เขาเชื่อพระเจ้าและเข้ามาหาพระเจ้าตามอย่างอาแบลโดยได้นำเลือดสัตว์เข้ามาถวายบูชาด้วย พระเจ้าจึงทรงให้อภัยโทษและทรงยอมรับโนอาห์   พระเจ้าทรงช่วยโนอาห์และครอบครัวของเขาให้รอดจากการพิพากษาที่จะมาถึงเพราะพวกเขาเชื่อในพระองค์  

ในข้อพระคัมภีร์ข้อต่อๆ ไปนั้นพระเจ้าได้ตรัสบอกแก่โนอาห์ว่าพระองค์จะบันดาลให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ซึ่งจะปกคลุมไปทั่วแผ่นดินโลกทั้งสิ้น  พระองค์ทรงตรัสสั่งให้โนอาห์ต่อเรือใหญ่ขึ้นมาลำหนึ่ง เรียกว่า“นาวา”เพื่อว่าคนเหล่านั้นทุกคนที่เชื่อพระเจ้าจะได้รับความรอด   ทางที่จะเข้าไปในนาวามีอยู่เพียงทางเดียวเท่านั้น  พระเจ้าทรงบัญชาให้

โนอาห์สร้างประตูขึ้นมาเพียงประตูเดียว  มนุษย์ทุกคนและสัตว์ทุกตัวที่จะรอดพ้นจากการพิพากษาของพระเจ้าได้นั้นจะต้องเข้าไปในนาวาทางประตูนี้เพียงประตูเดียวเท่านั้น  

พระเจ้าทรงใช้นาวาเพื่อแสดงภาพให้เห็นถึงสิ่งที่“พระผู้ช่วยให้รอด”ซึ่งจะเสด็จมานั้นจะทรงกระทำเพื่อช่วยชีวิตมนุษย์ให้รอดพ้นจากความชั่วร้าย ซาตานและความตาย    พระเจ้าจะส่ง“พระผู้ช่วยให้รอด”มาเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นซึ่งก็เหมือนกับที่มีนาวาเพียงลำเดียวซึ่งมีประตูเพียงประตูเดียวเท่านั้น  เราจะมาศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้กันอีกในบทต่อไป

ปฐมกาล 6:22  โนอาห์ได้กระทำตามทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงบัญชาแก่ท่าน ดังนั้นท่านจึงกระทำอย่างนั้นทุกประการ

โนอาห์เชื่อฟังพระเจ้าเขาจึงกระทำทุกสิ่งตามที่

พระเจ้าได้ตรัสบัญชาเขาไว้  ขณะที่โนอาห์ต่อเรือนั้นเขาได้บอกคนมากที่สุดเท่าที่เขาสามารถจะทำได้เพื่อให้พวกเขาได้ทราบถึงวิธีการของพระเจ้าที่จะหนีให้รอดพ้นจากการพิพากษาที่จะมาถึงนั้น  คุณคิดว่าจะมีสักกี่คนที่เชื่อโนอาห์  ไม่มีใครเลย นอกจากครอบครัวของโนอาห์เท่านั้นเอง

ปฐมกาล 7:1-5  และพระเยโฮวาห์ตรัสแก่โนอาห์ว่า “เจ้าและครอบครัวทั้งหมดจงเข้าไปในนาวา เพราะว่าเราเห็นว่า เจ้าชอบธรรมต่อหน้าเราในชั่วอายุนี้   เจ้าจงเอาสัตว์ทั้งปวงที่สะอาดทั้งตัวผู้และตัวเมียอย่างละเจ็ดคู่ และสัตว์ทั้งปวงที่ไม่สะอาดทั้งตัวผู้และตัวเมียอย่างละคู่   นกในอากาศทั้งตัวผู้และตัวเมียอย่างละเจ็ดคู่ด้วย เพื่อรักษาชีวิตไว้ให้สืบเชื้อสายบนพื้นแผ่นดินโลก เพราะว่าอีกเจ็ดวันเราจะบันดาลให้ฝนตกบนแผ่นดินโลกสี่สิบวันสี่สิบคืน และสิ่งที่มีชีวิตทั้งปวงที่เราสร้างมานั้นเราจะทำลายเสียจากพื้นแผ่นดินโลก”  โนอาห์ได้กระทำตามทุกสิ่งที่พระเยโฮวาห์ทรงบัญชาแก่ท่าน   

โนอาห์ได้เตือนมนุษย์ให้ทราบถึงการพิพากษาของพระเจ้าซึ่งจะมาถึงนั้น แต่พวกเขาไม่ยอมกลับใจเสียใหม่  

พระเจ้าทรงคอยให้พวกเขาเปลี่ยนใจเป็นเวลานานถึง 120 ปี แต่เวลาที่พระองค์จะไม่คอยอีกต่อไปก็ได้มาถึง ซึ่งเป็นเวลาที่พระเจ้าจะทรงพิพากษาพวกเขา  พระเจ้าทรงบัญชาให้โนอาห์และครอบครัวพร้อมด้วยสัตว์ทั้งหลายเข้าไปในนาวาทางประตูซึ่งมีอยู่เพียงประตูเดียวนั้น

ปฐมกาล 7:15-16  สัตว์ทั้งปวงที่มีลมปราณแห่งชีวิตได้เข้าไปหาโนอาห์ในนาวาเป็นคู่ๆ  สัตว์ทั้งปวงที่เข้าไปนั้นได้เข้าไปทั้งตัวผู้และตัวเมียตามที่พระเจ้าได้ทรงบัญชาแก่ท่าน และ

พระเยโฮวาห์ทรงปิดประตูให้ท่าน  

พระเจ้าทรงบันดาลให้บรรดาสัตว์ทั้งปวงมาหา

โนอาห์โดยที่เขาไม่ต้องออกไปตามล่ามันในป่า   เมื่อพระเจ้าทรงปิดประตูนั้นลงแล้วก็สายเกินไปที่ใครจะเข้าไปในนาวาได้อีกบรรดาสิ่งต่าง ๆทั้งปวงซึ่งอยู่ในนาวาก็ปลอดภัยจากการพิพากษาของพระเจ้าที่จะมาถึงนั้น และบรรดาสิ่งต่าง ๆทั้งปวงซึ่งอยู่นอกนาวาก็ไม่มีทางที่จะรอดพ้นจากการพิพากษาของพระเจ้าได้เลย พระเจ้าทรงบันดาลให้ฝนตกเป็นเวลา 40 วัน 40 คืนจนกระทั่งแผ่นดินโลกทั้งสิ้นแม้แต่ยอดเขาที่สูงที่สุดถูก

ปกคลุมไปด้วยน้ำ  

 ปฐมกาล 7:17-24   น้ำได้ท่วมแผ่นดินโลกสี่สิบวัน และน้ำก็ทวีมากขึ้นและหนุนนาวาให้สูงเหนือแผ่นดินโลก  น้ำไหลเชี่ยและทวีมากยิ่งขึ้นบนแผ่นดินโลก และนาวาลอยบนผิวน้ำ  น้ำไหลเชี่ยวทวีมากยิ่งขึ้นบนแผ่นดินโลก และน้ำก็ท่วมภูเขาสูงทุกแห่งทั่วใต้ฟ้า  น้ำไหลเชี่ยวท่วมเหนือภูเขาสิบห้าศอก   บรรดาเนื้อหนังที่เคลื่อนไหวบนแผ่นดินโลก ทั้งนก สัตว์ใช้งาน สัตว์ป่า และสัตว์เลื้อยคลานที่คลานไปมาบนแผ่นดินโลก และมนุษย์ทั้งปวงก็ตายสิ้น   มนุษย์ทั้งปวงผู้ซึ่งมีลมปราณแห่งชีวิตเข้าออกทางจมูก สิ่งสารพัดที่อยู่บนบกตายสิ้น   สิ่งที่มีชีวิตทั้งปวงที่อยู่บนพื้นแผ่นดินโลกถูกทำลาย ทั้งมนุษย์ สัตว์ใช้งาน สัตว์เลื้อยคลาน และนกในอากาศ และทุกสิ่งถูกทำลายจากแผ่นดินโลก เหลืออยู่แต่โนอาห์และทุกสิ่งที่อยู่กับท่านในนาวา  น้ำไหลเชี่ยวบนแผ่นดินโลกเป็นเวลาหนึ่งร้อยห้าสิบวัน

เมื่อมาพิจารณาถึงคนเหล่านั้นที่ต้องตายไปเพราะเขาได้ปฏิเสธพระเจ้าก็ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจเสียจริง ๆ    

พระเจ้าทรงปรารถนาที่จะยอมรับพวกเขา แต่พระองค์จะยอมรับผู้ที่เชื่อพระองค์เท่านั้น   หลังจากที่ฝนได้ตกลงมานานถึง 40 วันแล้วน้ำก็ยังคงปกคลุมแผ่นดินโลกอยู่เป็นเวลาอีก 150 วัน ดังนั้นเมื่อรวมกันแล้วจึงเป็นเวลานานถึง 190 วัน ซึ่งนานกว่า 6 เดือนเสียอีก ซึ่งคงไม่มีใครสามารถจะมีชีวิตอยู่ได้นานขนาดนั้นเมื่อต้องลอยคอเกาะเศษไม้โดยปราศจากอาหารใด ๆ    คนทั้งหลายซึ่งได้ปฏิเสธที่จะเชื่อพระเจ้าก็อยู่นอกนาวาและถูกทำลายเสียสิ้น มีเพียงโนอาห์และครอบครัวของเขาเท่านั้นที่เชื่อพระเจ้าและได้รับการช่วยให้รอดจากการพิพากษาของพระองค์  พระเจ้าทรงมีพระทัยอดกลั้นต่อมนุษย์ พระองค์ได้ทรงรอคอยให้พวกเขากลับใจเสียจากทางชั่วของตนเองอยู่นานถึง 120 ปี แต่พวกเขากลับปฏิเสธที่จะเชื่อในพระเจ้าอย่างไม่ใยดี

ปฐมกาล 8:1-4   พระเจ้าทรงระลึกถึงโนอาห์ บรรดาสัตว์ที่มีชีวิตและสัตว์ใช้งานทั้งปวงที่อยู่กับท่านในนาวา และพระเจ้าทรงทำให้ลมพัดมาเหนือแผ่นดินโลก และน้ำทั้งปวงก็ลดลง  น้ำพุทั้งหลายที่อยู่ใต้บาดาลและช่องฟ้าทั้งปวงก็ปิด และฝนที่ตกจากฟ้าก็หยุด  น้ำก็ค่อยๆลดลงจากแผ่นดินโลก และล่วงไปร้อยห้าสิบวันแล้วน้ำก็ลดลง ณ เดือนที่เจ็ดวันที่สิบเจ็ดนาวาก็ค้างอยู่บนเทือกเขาอารารัต    

พระเจ้าทรงคุ้มครองโนอาห์และครอบครัวพร้อมด้วยสัตว์ทั้งหลายไว้ภายในนาวาให้พ้นจากน้ำท่วมนั้น   และแล้วลมก็เริ่มก่อให้เกิดกระบวนการระเหยของน้ำซึ่งช่วยให้ระดับน้ำตามที่ต่าง ๆลดลง  นาวาก็มาค้างอยู่เทือกเขาอารารัต  ปัจจุบันเทือกเขาเหล่านี้อยู่ในประเทศตุรกีตามแนวชายแดนที่ติดกับประเทศอาร์เมเนียและจอร์เจีย  

น้ำบนแผ่นดินโลกก็ใช้เวลาอีกนาน 6 เดือนจึงแห้งสนิท  ข้อ  พระคัมภีร์อีก 2-3 ข้อต่อมาได้อธิบายถึงการเปิดนาวาและการขนย้ายสิ่งต่าง ๆออกจากนาวา  ทั้งสัตว์ต่าง ๆ และมนุษย์ได้เข้าสู่โลกใหม่อีกครั้ง  นี่คงจะเป็นโลกที่แตกต่างจากโลกที่พวกเขาได้จากมาอย่างสิ้นเชิง  พวกเขาจะไม่ได้พบเพื่อนบ้าน บ้านเรือน หรือเมืองใด ๆ ซึ่งคงเป็นโลกที่เงียบ

มากทีเดียวเพราะมนุษย์อยู่เพียง 8 คนและสัตว์อีกไม่กี่ตัวเท่านั้นที่อาศัยบนโลกทั้งโลก

พระเจ้าทรงให้โนอาห์และบุตรชายของเขา คือ เชม ฮาม และยาเฟท ครอบครองฝูงสัตว์ ฝูงนก และปลา เหมือนที่พระองค์ได้ทรงประทานสิ่งเหล่านี้แก่อาดัมในสวนเอเดนมาแล้ว  โลกและสิ่งสารพัดทุกสิ่งซึ่งอยู่ในโลกนั้นเป็นของพระเจ้า แต่พระองค์ได้ทรงประทานแก่มนุษย์ให้จัดการดูแลสิ่งต่าง ๆเหล่านี้แทนพระองค์

 ปฐมกาล 9:11-15  เราจะตั้งพันธสัญญาของเราไว้กับพวกเจ้าว่า จะไม่มีการทำลายบรรดาเนื้อหนังโดยน้ำท่วมอีก จะไม่มีน้ำมาท่วมทำลายโลกอีกต่อไป   พระเจ้าตรัสว่า “นี่เป็นหมายสำคัญแห่งพันธสัญญาซึ่งเราตั้งไว้ระหว่างเรากับพวกเจ้า และสัตว์ที่มีชีวิตทั้งปวงที่อยู่กับเจ้าในทุกชั่วอายุตลอดไปเป็นนิตย์ เราได้ตั้งรุ้งของเราไว้ที่เมฆและมันจะเป็นหมายสำคัญแห่งพันธสัญญาระหว่างเรากับแผ่นดินโลก และต่อมาเมื่อเราให้มีเมฆเหนือแผ่นดินโลกจะเห็นรุ้งที่เมฆนั้น และเราจะระลึกถึงพันธสัญญาของเราซึ่งมีระหว่างเรากับพวกเจ้าและสิ่งที่มีชีวิตทั้งปวงแห่งบรรดาเนื้อหนัง และน้ำจะไม่มาท่วมทำลายบรรดาเนื้อหนังอีกต่อไป    

รุ้งกินน้ำเป็นสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงประทานแก่มนุษย์เพื่อเป็นหมายสำคัญของพระองค์ที่แสดงว่าพระองค์จะไม่ทำลายแผ่นดินโลกทั้งสิ้นด้วยน้ำท่วมอีก    หลายพันปีหลังจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ผ่านไปพระเจ้าก็ยังคงรักษาคำตรัสของพระองค์อยู่เสมอ ดังนั้นเมื่อคุณเห็นรุ้งกินน้ำจงระลึกไว้เถิดว่า พระเจ้าได้ทรงประทานรุ้งกินน้ำนั้นเพื่อเป็นหมายสำคัญว่าพระองค์จะไม่ทำลายโลกด้วยน้ำท่วมอีก และเราก็สามารถไว้วางใจพระองค์ได้

คำถามบทที่  5 

1. คนส่วนใหญ่เชื่อพระเจ้าหรือไม่

ก) เชื่อ

ข) ไม่เชื่อ

2. พระเจ้าตรัสว่าพระองค์จะทรงทำอย่างไรกับผู้ที่ไม่ยอมกลับ
    ใจสำนึกผิด

ก) จะทรงพิพากษาลงโทษพวกเขา

ข) จะทรงช่วยพวกเขาให้เป็นคนดี

ค) จะทรงยอมรับพวกเขาแม้ว่าพวกเขาเป็นคนบาป

3. ทำไมพระเจ้าทรงตัดสินพระทัยช่วยโนอาห์

ก) เพราะเขาเป็นคนดี    

ข) เพราะเขาไม่เคยทำบาป     

ค) เพราะเขาเชื่อในพระเจ้า

4. พระเจ้าทรงสั่งให้โนอาห์ทำอะไร

ก) สร้างบ้านหลังใหญ่

ข) สร้างเรือลำใหญ่

ค) สร้างหอใหญ่

5. พระเจ้าทรงสั่งให้โนอาห์สร้างประตูไว้ที่เรือกี่บาน ก) 0  

ข) 1      

ค) 2      

ง) 3

6. พระเจ้าทรงรอให้คนในสมัยโนอาห์กลับใจสำนึกผิดนาน
    เท่าไหร่

ก) 120 วัน

ข) 120 เดือน

ค) 120 ปี

7. ใครเป็นผู้ปิดประตูเรือ

ก) พระเจ้า

ข) โนอาห์

ค) ซาตาน

8. มีคนที่อยู่นอกเรือรอดจากความตายหรือไม่ 

ก) มี

ข) ไม่มี